ยิ้มสวยขึ้นด้วยการ ‘การตัดเหงือก’ เป็นเรื่องใหม่มาก ๆ สำหรับหลายคนที่ไม่รู้ว่าการตัดเหงือกนั้นสามารถสร้างรูปแบบของฟันให้ดีสวยงามขึ้นได้ ปัจจุบันการตัดเหงือกได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อง ๆ โดยเฉพาะคนที่มีฟันสั้น เหงือกเยอะ ก็สามารถเข้าไปรับการผ่าตัดเหงือกได้ แต่การเรื่องของการผ่าตัดเหงือกอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่น่ากลัวแต่จริง ๆ วิธีการรักษาแบบนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และจัดอยู่ในทันตกรรมเพื่อความงาม โดยการศัลยกรรมตกแต่งเหงือก สำหรับการผ่าตัดเหงือกนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะนี่ถือเป็นหนึ่งในวิธีการศัลยกรรมตกแต่งเล็ก ๆ สร้างแผลให้กับคนไข้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังหาวิธีการเพิ่มรอยยิ้มที่สวยงามและกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการตัดแต่งเหงือก บทความนี้จะมาพูดถึง ตัดเหงือก คืออะไร ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องใดได้บ้าง ? ที่หลายคนอยากรู้
ศัลยกรรมเหงือก หรือ การผ่าตัดเหงือก (Gum Contouring Surgery) เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมตัดแต่ง และทันตกรรมเพื่อความงามที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในปัจจุบัน การผ่าตัดเหงือกที่มีลักษณะที่โตมากกว่าปกติ หรือเหงือกที่เป็นส่วนเกินออกด้วยเครื่องมือทางทันตกรรม สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหา เพื่อปรับแนวเหงือกให้เสมอกัน หรือเพื่อเพิ่มความยาวของฟันให้ดูยาวขึ้น ซึ่งการมีเหงือกเยอะหรือเหงือกโตผิดปกติถึงแม่จะไม่สร้างลำบากในการใช้ชีวิต แต่ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจในการยิ้มได้
ในการศัลยกรรมเหงือก คือการตัดแต่งเฉพาะขอบเหงือกส่วนเกินให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มความยาวของฟันให้เห็นเต็ม ๆ ซี่ ในการรักษาจะใช้เครื่องตัดเหงือกไฟฟ้า (Electrosurgery) เลเซอร์ (Laser) หรือใบมีด เครื่องตัดเหงือกในปัจจุบันมีความทันสมัยและมีวิธีการรักษาทำให้แผลที่เกิดจากการตัดเป็นแผลขนาดเล็กตามขอบเหงือก และสามารถหายได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 อาทิตย์ มีวิธีการดูแลรักษาแผลที่เกิดจากการผ่าตัดเหงือกไม่ยุ่งยากเพียงแค่รักษาความสะอาดให้ดีตามที่ทันตแพทย์แนะนำเท่านั้น
ในปัจจุบันการรักษาด้วยการผ่าตัดเหงือกเพื่อความสวยงามนั้นจะมี 2 วิธีที่จะใช้กันในทางทันตกรรม คือ ตัดเหงือกด้วยใบมีด และ ตัดเหงือกด้วยระบบไฟฟ้า หรือ ตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ โดยทั้งสองรูปแบบจะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันดังนี้
ในปัจจุบันการรักษาด้วยการผ่าตัดเหงือกเพื่อความสวยงามนั้นจะมี 2 วิธีที่จะใช้กันในทางทันตกรรม คือ ตัดเหงือกด้วยใบมีด และ ตัดเหงือกด้วยระบบไฟฟ้า หรือ ตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ โดยทั้งสองรูปแบบจะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันดังนี้
การรักษาตัดแต่งเหงือกนั้นปลอดภัยสำหรับผู้ที่สุขภาพดี ใช้เวลาไม่มากนัก และมักไม่เจ็บปวด ส่วนใหญ่ หลังจากเสร็จแล้วก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อีกทั้งยังสามารถทำควบคู่การรักษาอาการอื่นๆ ได้ เช่น การรักษารากฟัน แก้ปัญหาเหงือกบวม การอุดฟัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ควรพักผ่อนและงดทำกิจกรรมที่อาจเป็นผลเสียกับแผลได้
” วิธีดูแลรักษาสุขภาพเหงือกและฟันเบื้องต้น คือ การขุดหินปูนอย่างน้อย 6 เดือนต่อ 1 ครั้ง เพื่อสุขภาพลดการสะสมของหินปูนที่มีผลกระทบต่อเหงือกและฟัน “
การรักษาด้วยวิธีตัดเหงือก เป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อน อาการส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน แต่อย่างไรก็ตามควรดูแลความสะอาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ และแผลจะหายสมบูรณ์ภายใน 2-4 สัปดาห์
แผลสามารถหายเองได้ใน 2-4 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำ พร้อมยารับประทาน หากมีผลข้างเคียงอื่นๆ ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ที่ทำการรักษาท่าน
อาการเหงือกร่น ส่วนใหญ่เกิดจากโรคเหงือก หรือการแปรงฟันผิดวิธี การผ่าตัดความผิดปกติประเภทนี้ คือการนำเหงือกจากเพดานมาปลูกบริเวณดังกล่าว
บางครั้งใบหน้าอูมอาจจะเกิดจากมีกระดูกบริเวณเหงือกหนายื่นออกมา วิธีรักษาก็คือการกรอกระดูกฟันบริเวณนั้นๆ ออกไปก็จะช่วยให้ใบหน้าดูอูมน้อยลงได้ โดยส่วนใหญ่ทำหลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว
ราคาไม่แพงเลย ประมาณ 500-800 บาทต่อซี่ โดยทั่วไปต้องทำประมาณ 6-8 ซี่ ทั้งนี้ ราคาและการรักษาขึ้นอยู่กับการปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทำการรักษาด้วย
บางครั้งขอบของครอบฟันที่อยู่ต่ำกว่ากระดูก จึงไม่สามารถนำครอบฟันไปวางไว้บนขอบเหงือกได้ ดังนั้นจึงต้องมีการตัดเหงือกร่วมกับการกรอลดความสูงกระดูกก่อนที่จะใส่ครอบฟัน
บางครั้งเหงือกที่ถูกตัดออกไปสามารถงอกออกมาได้อีกเนื่องจากโรคปริทันต์ ถ้าดูแลรักษาความสะอาดไม่ถูกวิธี