ความรู้ทันตกรรม

การจัดฟันคืออะไร? เรื่องควรรู้ก่อนจัดฟัน

26

ก.ค.

การจัดฟันคืออะไร สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง ไปดูกัน
Table of Contents

การจัดฟันคืออะไร สามารถแก้ไขปัญหาฟันอะไรได้บ้าง? จัดฟันเป็นหนึ่งในการรักษาสุขภาพช่องปากและฟันที่มีความปลอดภัย และมีข้อดีมากกว่าการแก้ปัญหาฟัน เพราะการมีสุขอนามัยภายในช่องปากที่ดีจะส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวมได้อีกด้วย ซึ่งในวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับการจัดฟัน เพื่อช่วยในการตัดสินใจสำหรับใครที่ยังลังเลและต้องการจะแก้ปัญหาฟันอย่างมีปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การจัดฟันคืออะไร

การจัดฟันคืออะไร

การจัดฟัน (Orthodontics) คือ วิธีการรักษาและแก้ไขปัญหาฟันทางทันตกรรม โดยจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันไม่สบกัน ฟันยื่น รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกรที่ส่งผลต่อรูปหน้า หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การบดเคี้ยวอาหาร การออกเสียง หรือการทำความสะอาด เป็นต้น

ประเภทของการจัดฟัน

การจัดฟันแยกออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ การจัดฟันแบบเครื่องมือติดแน่นบนฟัน และการจัดฟันแบบสามารถถอดเครื่องมือออกได้ ซึ่งการจัดฟันทั้ง 2 ประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของคนไข้แต่ละคน ทั้งเรื่องของงบประมาณ ค่าใช้จ่าย หน้าที่กาารงาน ความจำเป็น หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ในชีวิตร่วมด้วยเช่นกัน

รูปแบบของการจัดฟัน

  1. จัดฟันแบบโลหะ (Metal Bracket)
  2. จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces)
  3. จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)
  4. จัดฟันแบบใส (Invisalign)

ข้อดีของการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน

การจัดฟันเป็นการรักษาและแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันทางทันตกรรมที่มีข้อดีมากมาย ได้แก่

  • ช่วยแก้ปัญหาฟันได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อนเก ฟันกัดคร่อม ฟันห่าง ฟันไม่สบกัน ฟันยื่น และปัญหาที่เกี่ยวกับขากรรไกร เป็นต้น
  • ช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้ เนื่องจากฟันที่เรียงกันเป็นระเบียบจากการจัดฟันจะสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและทั่วถึงมากกว่า
  • ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้
  • ช่วยฝึกวินัยในตัวเองได้ เพราะการจัดฟันจะต้องมีการดูแลรักษาฟันเป็นอย่างดี ทั้งการทำความสะอาดและการทานอาหาร
  • ช่วยในเรื่องการบดเคี้ยวอาหาร และส่งผลไปยังการทำงานของระบบย่อยอาหารที่ดีขึ้นด้วย
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม หัวเราะ หรือพูดคุยกับคนอื่น ๆ ได้

ข้อเสียของการจัดฟัน

ข้อเสียของการจัดฟัน

นอกจากข้อดีแล้ว การจัดฟันก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะรู้ไว้ก่อนตัดสินใจจัดฟัน เนื่องจากการจัดฟันจะใช้เวลานาน ในบางกรณีอาจใช้เวลามากถึง 2-3 ปี 

  • ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันค่อนข้างสูง แม้จะเป็นการจัดฟันแบบโลหะที่มีราคาถูกที่สุด แต่ก็จะต้องมาปรับเครื่องมือและเปลี่ยนสียางจัดฟันทุกเดือน
  • เกิดความระคายเคือง ทำให้รู้สึกไม่สบายในช่องปาก อาจจะเกิดจากเครื่องมือจัดฟัน แต่ก็จะสามารถใช้ขี้ผึ้งในการบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้
  • แรงดึงหรือแรงกดบนฟันอาจจะทำให้รู้สึกปวดฟันและเจ็บเหงือกได้
  • นอกจากการจัดฟันแบบใสแล้ว การทำความสะอาดภายในช่องปากจะยากขึ้น จึงต้องเลือกใช้แปรงฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อการทำความสะอาดที่ทั่วถึงที่สุด
  • เมื่อทำความสะอาดยากขึ้น ก็อาจจะตามมาด้วยปัญหาฟันผุ โรคเหงือก หรือเหงือกร่น
  • หลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว จะต้องใส่รีเทนเนอร์ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาฟันล้ม ฟันเคลื่อน

(อ่านเพิ่มเติม: รีเทนเนอร์คืออะไร สำคัญอย่างไรในการจัดฟัน)

บทสรุป

สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการเลือกคลินิกทันตกรรมสำหรับการจัดฟัน โดยจะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ความน่าเชื่อถือ มาตรฐานของคลินิกและทันตแพทย์ รวมถึงมาตรฐานการบริการของคลินิกด้วยเช่นกัน ควรจะต้องมีการให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา สามารถวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด และเหมาะสมสำหรับคนไข้แต่ละคน

คลินิกทันตกรรม Dio Dental มีบริการจัดฟันกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รับประกันความปลอดภัยและคุณภาพได้จากรีวิวผู้เข้ารับบริการจริง ทางคลินิกพร้อมให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร

บทความเพิ่มเติม:

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin