การฝังรากฟันเทียม All-on-6 คืออะไร?

การฝังรากฟันเทียม All on 6 คืออะไร
สารบัญเนื้อหา

การฝังรากฟันเทียม All-on-6 คือกระบวนการรักษาชนิดพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการใส่รากฟันเทียม 6 ชิ้นเพื่อรองรับส่วนโค้งของฟันเทียม กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับการฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-4 แต่มีการฝังรากฟันเทียมเพิ่มอีก 2 ชิ้นเพื่อให้ฟันเทียมมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

การฝังรากฟันเทียม All-on-6 คือ?

ในระหว่างการฝังรากฟันเทียม All-on-6 ทันตแพทย์จะฝังรากฟันเทียม 6 ชิ้น ในตำแหน่งที่สำคัญของกระดูกขากรรไกร รากฟันเทียมเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของสะพานฟันหรือฟันปลอมที่จะนำไปเชื่อมกับรากฟันเทียมเพื่อฟื้นฟูฟันที่หายไป

การฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-6 โดยทั่วไปแล้วจะมีการนัดหมายสองถึงสามครั้งในช่วงหลายเดือน การนัดหมายครั้งแรกจะเกี่ยวกับการตรวจสอบและให้คำปรึกษาอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาว่าคุณสามารถฝังรากฟันเทียมได้หรือไม่

ในการนัดหมายครั้งที่สอง จะเป็นการใส่รากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกร โดยมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ควบคู่ไปด้วย ซึ่งหลังจากใส่รากฟันเทียมแล้ว จะต้องให้รากฟันเทียมค่อยๆ รักษาตัวเพื่อให้เข้ากับกระดูกขากรรไกร ในระหว่างนี้คุณอาจใส่ฟันปลอมหรือสะพานฟันชั่วคราวได้ หลังจากนั้นการนัดหมายครั้งสุดท้ายจะเป็นการติดสะพานฟันถาวรหรือการทำฟันปลอมบนรากฟันเทียม

ข้อดีและข้อเสียของการทำรากฟันเทียมแบบ All-on-6

ข้อดีและข้อเสียของการทำรากฟันเทียมแบบ All-on-6

ข้อดี

1. ความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น

ด้วยการฝังรากฟันเทียม 6 ชิ้น แบบ All-on-6 จะช่วยเพิ่มความมั่นคงและรองรับฟันเทียมได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่มีการสูญเสียฟันในระดับรุนแรง

2. เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน

การทำรากฟันเทียม All-on-6 ช่วยให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร พูด และยิ้มได้อย่างมั่นใจและสบายใจมากขึ้น เนื่องจากฟันเทียมจะยึดอยู่กับรากฟันเทียมอย่างหนาแน่นและแข็งแรง

3. มีลักษณะที่เป็นธรรมชาติ

ฟันเทียมในการรักษาแบบ All-on-6 จะได้รับการสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับลักษณะฟันธรรมชาติของผู้ป่วย ทำให้มีรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม

4. เห็นผลลัพธ์ในทันที

ผู้ป่วยสามารถทำสะพานฟันหรือฟันปลอมขั้นสุดท้ายได้ในวันเดียวกับขั้นตอนการปลูกรากฟันเทียมเลย ทำให้ผู้ป่วยสามารถออกไปข้างนอกด้วยรอยยิ้มที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ข้อเสีย

1. ราคาค่าใช้จ่าย

การฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-6 อาจมีราคาสูงกว่าการทำฟันปลอมแบบทั่วไป

2. ระยะเวลาในการรักษา

การฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-6 จะต้องใช้เวลาในการรักษาหลายเดือน เพื่อให้วัสดุเทียมยึดเข้ากับกระดูกขากรรไกร ซึ่งอาจใช้เวลานาน

3. ไม่เหมาะกับทุกคน

การรักษาแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยทุกคน เนื่องจากขั้นตอนในการรักษานี้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีกระดูกขากรรไกรที่แข็งแรงและสุขอนามัยภายในช่องปากดี

4. ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

การทำทันตกรรมอื่นๆ และการฝังรากฟันแบบ All-on-6 อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น รากฟันเทียมล้มหรือมีการติดเชื้อ

ขั้นตอนการฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-6

ขั้นตอนการฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-6

การให้คำปรึกษา

ก่อนเข้าทำการรักษานั้น ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบว่าคุณเหมาะกับการฝังรากฟัน All-on-6 หรือไม่ ถ้าหากว่าคุณมีคุณสมบัติครบ ทันตแพทย์จะอธิบายขั้นตอนให้คุณทราบอย่างละเอียด และเปรียบเทียบขั้นตอนการฝังรากฟันเทียมแบบอื่นๆ ให้คุณฟัง และเมื่อคุณได้ฟังการให้คำปรึกษาจบแล้ว คุณก็จะต้องตัดสินใจว่าจากข้อมูลที่รับฟังมานั้นเหมาะกับคุณหรือไม่

การนัดหมายเข้ารับการรักษา

ขั้นตอนโดยทั่วไปของการฝังรากฟันเทียม All-on-6 จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 4 ชั่วโมงต่อขากรรไกรหนึ่งข้าง ซึ่งจะต้องมีการใช้ยาชาทั่วไปในขั้นตอนนี้ด้วย ดังนั้นจะเป็นการดีมากหากมีการเผื่อเวลาไว้เป็น 1 วันเต็ม เพื่อเตรียมตัวเข้ารับการรักษา โดยที่คุณสามารถเลือกได้ว่าพร้อมกันทั้งสองข้างหรือทีละข้างก็ได้ อย่างเช่นทำแบบ All-on-4 บนขากรรไกรข้างหนึ่ง (นิยมเลือกเป็นขากรรไกรล่าง) และทำแบบ All-on-6 บนขากรรไกรอีกข้างหนึ่ง (นิยมเลือกเป็นขากรรไกรบน) ภายในวันเดียวกัน

การฝังรากฟันเทียม

การฝังรากฟันเทียมจะเริ่มด้วยการขันสกรู 6 ตัวเข้ากับกระดูกขากรรไกรของคุณ เมื่อสกรูเข้าที่แล้ว ทันตแพทย์จะใส่ฟันปลอมชั่วคราวที่มักจะทำขึ้นจากวัสดุเรซิน โดยมีความแข็งแรงไม่เท่ากับฟันปลอมแบบถาวรที่จะใส่ลงไปในภายหลัง แต่ด้วยข้อดีที่มันมีน้ำหนักเบากว่า จะช่วยให้กระบวนการฟื้นฟูรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ช่วงพักฟื้น

หลังเข้ารับการทำทันตกรรมแล้ว คุณอาจจะมีอาการบวมหรือช้ำหลังเข้ารับการผ่าตัด แต่มันจะค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน หลังจากนั้นแล้วคุณจะต้องรักษารากฟันเทียมให้ดีที่สุดเป็นเวลา 6 เดือนหลังเข้ารับการฝังรากฟันเทียมแบบ All-on-6 ไปแล้ว โดยทันตแพทย์จะสั่งห้ามกินหรือดื่มบางอย่าง และคุณจะต้องเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก (หรือระวังให้มากขึ้น) หรือบางคนสูบบุหรี่ ก็ถึงเวลาเตรียมตัวเลิกสูบบุหรี่อย่างจริงจังแล้ว

การฝังรากฟันเทียมแบบ All-On-6 เหมาะสำหรับอะไรบ้าง?

การฝังรากฟันเทียมแบบ All-On-6 เหมาะสำหรับอะไรบ้าง
  • การทำส่วนโค้งของแนวฟันใหม่
  • แก้ปัญหาฟันที่เสียไปอย่างคุ้มค่า
  • มีรูปร่างหน้าตาดีกว่าฟันปลอมทั่วไป
  • ผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่ดีและมากกว่าการใส่ฟันปลอม

นอกจากนี้การฝังรากฟันเทียมยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกรามอีกด้วย นอกจากจะมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้ว การฝังรากฟันเทียมก็ยังมีประโยชน์มากหากจำเป็นต้องมีเปลี่ยนรากฟันเทียมในครั้งต่อๆ ไป นอกจากนั้นความแข็งแรงของรากฟันเทียมแบบ All-on-6 ก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟได้เป็นอย่างดีเลย

สรุป

รากฟันเทียม All on 6 นั้นคือการทำรากฟันเทียมโดยใช้รากฟันเทียมจำนวนทั้งหมด 6 ราก เพื่อรองรับส่วนโค้งของฟันเทียมและเพิ่มความมั่นคงให้กับฟันเทียม เหมาะสำหรับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

รากฟันเทียม All on 6 คืออะไร?

การฝังรากฟันเทียม All on 6 คือกระบวนการรักษาชนิดพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการใส่รากฟันเทียม 6 ชิ้นเพื่อรองรับส่วนโค้งของฟันเทียม

รากฟันเทียม All on 6 ต่างจากรากฟันเทียม All on 4 อย่างไร?

รากฟันเทียม All on 6 กับรากฟันเทียม All on 4 นั้นจะมีข้อแตกต่างกันตรงที่ “จำนวนรากฟันเทียม” ที่จะฝังเข้าไป โดยแบบ All on 6 นั้นจะใช้รากฟันเทียมจำนวน 6 ราก ส่วนแบบ All on 4 จะใช้รากฟันเทียมจำนวน 4 ราก

รากฟันเทียม All on 6 เหมาะกับใคร?

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาที่ฟันที่สูญเสียไป รวมไปถึงคนที่ไม่ต้องการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้

ทำรากฟันเทียม All on 6 ที่ไหนดี?

การที่จะเลือกคลินิกทันตกรรมในการทำรากฟันเทียม All on 6 ควรเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง พร้อมทั้งเครื่องมือถือที่ทันสมัย ซึ่งที่ Dio Dental มีทั้งทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง รวมไปถึงมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Digital 3D และ CT-Scan เช่นกัน อีกทั้งยังพร้อมให้บริการด้านทันตกรรมอื่นๆ เช่น จัดฟันใส ขูดหินปูน อุดฟัน เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin