จัดฟัน ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาฟันต่าง ๆ ที่ไม่เป็นระเบียบ หรือไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและสร้างปัญหาสุขภาพฟันในอนาคต โดยจะเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันเข้ามาอยู่จัดตำแหน่งที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ ปัจจุบันการจัดฟันนั้นมีอยู่หลายประเภทที่คนไข้สามารถเลือกรักษาได้ และการจัดฟันสามารถทำได้ในทั้งวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความสะดวก
การจัดฟันยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของใบหน้าให้สวยงามขึ้นส่งผลต่อความมั่นใจในรอยยิ้มที่สดใสในอนาคต ก่อนที่จะเข้ามารับการจัดฟันคุณสามารถหาความรู้เกี่ยวกับการจัดฟันในบทความที่ Dio Dental ได้เลย
การจัดฟัน คืออะไร ?
การจัดฟัน คือ เป็นกระบวนการทางทันตกรรมช่วยในการปรับปรุงการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ไม่ถูกต้องเพื่อความสวยงามและสุขภาพฟันที่ดีขึ้นในอนาคต การจัดฟันจะเป็นการรักษาที่ใช้เครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการจัดเรียงฟัน เพื่อให้ฟันเรียงตัวเป็นระเบียบและทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสมโดยทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทาง
ซึ่งไม่ได้ทำให้รอยยิ้มสวยงามเพียงอย่างเดียวยังช่วยปรับปรุงสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี หรือโครงสร้างของกรามที่ผิดปกติ ช่วยปรับปรุงความสามารถในการเคี้ยว และการพูดในกลับมาเป็นปกติ การจัดฟันสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของผู้ป่วย
การจัดฟันช่วยอะไรบ้าง ?
เพื่อให้การปรับปรุงความสวยงามของฟันและสุขภาพฟันในอนาคต การจัดฟันจึงเป็นทางเรื่องของหารรักษาปัญหาฟันต่าง ๆ มากมายในการปรับปรุงสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิต โดยช่วยแก้ไขปัญหาฟันดังต่อไปนี้
- ปรับปรุงการเรียงตัวของฟัน ไม่ว่าจะเป็น ฟันเก ฟันห่าง ฟันซ้อน ซึ่งเป็นปัญหาของการมีฟันมากเกินไปในช่องปาก ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ซ้อนทับกัน มีช่องว่างระหว่างฟันมากเกินไป การจัดฟันจะช่วยให้ฟันกลับมาเรียงตัวสวยงามขึ้น
- ฟันหน้ายื่น ฟันล่างยื่น หรือที่คนมักจะเรียกว่า ฟันเหยิน การที่ฟันยื่นออกมามากกว่าปกติเมื่อสบฟัน การจัดฟันจะช่วย ปรับปรุงการเคี้ยวและการพูด ลดความเสี่ยงในการเกิดการสึกของฟันและปัญหาข้อต่อขากรรไกรได้
- การสบฟันไม่ตรง ฟันบนและฟันล่างสบกันไม่ถูกต้อง ซึ่งจะสงผลต่อสุขภาพช่องปากเป็นอย่างมาก การจะฟันจะช่วย ป้องกันการสึกของฟันและปัญหาข้อต่อขากรรไกร
- การสบฟันแบบเปิด ไม่ว่าจะเป็นการสบฟันแบบเปิดเกิดจากฟันบนและฟันล่าง การจัดฟันสามารถแก้ไขการสบฟันแบบเปิดจะช่วยปรับปรุงการเคี้ยวและการพูด
- ปัญหากระดูกขากรรไกรผิดปกติ อาจจะต้องมีการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร จะทำให้การสบฟันที่ผิดปกติได้รับปรับปรุงสุขภาพช่องปากและความสามารถในการเคี้ยว และปรับปรุงโครงหน้าจากกระดูกขากรรไกรผิดปกติ
ประเภทของการจัดฟันมีอะไรบ้าง ?
ในปัจจุบันการจัดฟันมีการพัฒนาวิธีการรักษาและใช้เครื่องมือในการจัดฟันที่หลายแบบ แต่ละประเภทของการจัดฟันก็มีประสิทธิภาพดีที่ขึ้นกว่าอดีต และทำให้การจัดฟันใช้เวลาเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีการและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคนไข้ โดยประเภทหลักของการจัดฟันที่ทาง Dio Dental มีดังนี้
จัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces)
การจัดฟันแบบโลหะ คือหนึ่งเป็นวิธีการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและถือเป็นการจัดฟันแบบดั้งเดิม แต่มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพกว่าแต่ก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีการจัดในการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่มาก ๆ การจัดฟันประเภทนี้สามารถรักษาได้ และมีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาฟันหลากหลายชนิด
จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces)
การจัดฟันแบบเซรามิก ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของการจัดฟันแบบดั้งเดิมแต่เครื่องมือจัดฟันจะเปลี่ยนเป็นวัสดุเซรามิก โดยจะสร้างแบร็กเก็ตเซรามิกมีสีใสหรือสีเดียวกับฟัน ทำให้มองไม่เห็นง่ายเมื่อยิ้มหรือพูด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่ต้องการให้เครื่องมือจัดฟัน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ แต่วัสดุเซรามิกมีความเปราะบางกว่า ทำให้การดูแลรักษาอยากกว่า
จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)
การจัดฟันแบบดามอน ถือเป็นการจัดฟันโลหะที่มีระบบจัดฟันทันสมัย พัฒนาให้แบร็กเก็ตที่มีกลไกล็อคเองอัตโนมัติ (Self-Ligating) สามารถเปิดปิดได้เอง ทำให้ฟันสามารถเคลื่อนตัวได้เองโดยไม่ต้องนัดมาให้ทันตแพทย์เปลี่ยนยากดึงลวดบ่อย ๆ ทำให้ใช้เวลาในการรักษาเร็วกว่าและไม่เจ็บเท่ากับการจัดฟันแบบโลหะ แบร็กเก็ตแบบดามอนมีทั้งแบบโลหะและแบบเซรามิก ที่คุณสามารถเลือกได้
จัดฟันแบบใส Invisalign
การจัดฟันแบบใส Invisalign ถือเป็นนวัตกรรมการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่มีเครื่องมือจัดฟันที่เปลี่ยนไป โดยจะเป็นที่ครอบฟันพลาสติกใส (Aligners) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเคลื่อนที่ฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ใช้ระยะเวลารักษาเร็วกว่าแบบอื่น ๆ และยังมันเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ใหญ่และวัยทำงานที่ไม่ต้องให้เห็นเหล็กดัดฟันแบบดั้งเดิม และยังสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย
รีเทนเนอร์ คืออะไร ?
ในกระบวนการจัดฟันไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตาม หากสิ้นสุดการรักษาตามแผนและฟันเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดไว้แล้ว รีเทนเนอร์ (Retainer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาตำแหน่งของฟันหลังจากการจัดฟันเสร็จสิ้น โดยทั่วไปแล้วทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ติดต่อกันทุกวันอย่างน้อย 2 ปี เพื่อป้องกันการเคลื่อนไปยังตำแหน่งเดิมอีกครั้งหากไม่ใส่รีเทนเนอร์ไว้ โดยรีเทนเนอร์มีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน
- รีเทนเนอร์แบบฟิกซ์ด์ (Fixed Retainer) เป็นรีเทนเนอร์ที่ให้กันทั่วไปมากที่สุด เป็นลวดโลหะหรือเฟืองพลาสติก
- รีเทนเนอร์แบบใส (Clear Retainer) โดยจะทำจากซิลิโคนหรือพลาสติกที่ใสทั้งอัน ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นรีเทนเนอร์ได้
(อ่านเพิ่มเติม: รีเทนเนอร์คืออะไร สำคัญอย่างไรในการจัดฟัน)
การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน
ใครที่กำลังจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาการจัดฟันไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม แต่การเตรียมตัวการที่จะฟัดฟันนั้นเหมือนกัน เพื่อช่วยให้กระบวนการจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
- การตรวจสุขภาพช่องปากให้เรียบร้อย ก่อนที่ทันตแพทย์จะใส่เครื่องมีจะมีการตรวจสุขภาพช่องปากทั้งหมด หากมีฟันผุ หินปูน เหงือกอักเสบ หรืออื่น ๆ จะต้องรักษาให้หายดีก่อน หรือในการทันตกรรมจะเรียกว่า การเคลียร์ช่องปาก
- การถอนฟัน แน่นอนว่าการจัดฟันสำหรับปัญหาที่ต้องการแก้ไขอาจจะต้องมีการถอนฟันในบางที่ เพื่อให้ฟันสามารถเคลื่อนที่มาให้อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสมได้ สำหรับใครที่มีฟันคุดจะต้องได้ถอนออกหรือผ่าออกก่อนแน่นอน
- ตรวจสอบประเภทการจัดฟัน และปัญหาฟันที่เหมาะสบกับการจัดฟัน คนไข้จะต้องปรึกษากับทันตแพทย์เกี่ยวกับปัญหาที่ต้องการแก้ไขและประเภทการจัดฟันที่ต้องการ เพราะหากเป็นปัญหาที่ซับซ้อนอาจจะไม่สามารถจัดฟันใสได้ หรือบางปัญหาอาจจะต้องมีการผ่าตัดกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย
- ศึกษาวิธีการดูแลระหว่างการจัดฟันให้ดี เพื่อให้กระบวนการรักษาทั้งหมดเป็นไปอย่างราบเรียบตามที่วางแผนไว้ และป้องกันปัญหาฟันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะทำให้ประสิทธิภาพการจัดฟันลดลง
(เรียนรู้เพิ่มเติม: ก่อนจัดฟันควรรู้ เคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน ราคาเท่าไหร่ ทำอะไรบ้าง)
เตรียมตัวการจัดฟันครั้งแรก
ในการจัดฟันครั้งแรกนั้นมักจะเป็นปัญหาที่ทำให้คนไข้กังวลใจว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง จะมีอาการเจ็บหรือปวดหรือไม่ จะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการจัดฟัน ซึ่งโดยปกติแล้วคนไข้ที่กำลังจะจัดฟันนั้นมักจะมีการวางแผนมาก่อนแล้ว โดยจะมั่นใจแล้วว่าจะจัดฟันจริง ๆ เพราะการจัดฟันนั้นจะต้องใช้เวลานานถึง 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของฟันและรูปแบบการจัดฟัน) โดยทั้งหมดนี้จะต้องมีการเข้าพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาและให้คำแนะนำนในการดูแลทั้งก่อน ระหว่างและหลังจัดฟัน
อ่านเพิ่มเติม: รวมทุกเรื่องควรู้ฉบับมือใหม่ ก่อนจัดฟันครั้งแรก
ข้อดีของการจัดฟันแต่ละแบบ
ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ
- ประสิทธิภาพสูงในการรักษา เพราะสามารถรักษาฟันได้ทุกปัญหาไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก การสบฟันที่ผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เครื่องมือจัดฟัน แบร็กเก็ต และลวดโลหะมีความแข็งแรงและทนทานสูง ไม่แตกหักง่าย
- สนุกสนานและสร้างแฟชั่นในหมู่วัยรุ่น ในการเลือกเปลี่ยนสียางจัดฟันได้ตามใจคนไข้ทุก ๆ เดือน
- การจัดฟันแบบโลหะมีราคารักษาที่ถูกกว่าการจัดฟันประเภทอื่น ๆ
ข้อดีของการจัดฟันเซรามิก
- ทำให้เห็นเครื่องมือไม่ชัดเจน เน้นความสวยงามในการจัดฟัน ด้วยแบร็กเก็ตเซรามิกมีสีใสหรือสีเดียวกับฟัน ทำให้ไม่เด่นชัดเมื่อยิ้มหรือพูด
- ประสิทธิภาพสูงในการรักษา สามารถรักษาปัญหาได้ทุกรูปแบบ เช่นเดียวกับการจัดฟันแบบโลหะ
ข้อดีของการจัดฟันแบบดามอน
- การจัดฟันแบบดามอนใช้ระยะเวลาในการรักษาเร็วกว่าการจัดฟันแบบโลหะและเซรามิก
- ลดความเจ็บปวดในการจัดฟัน และไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อย ๆ
- ไม่ต้องใช้ยางรัดเพื่อดึงฟัน จึงทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
- เครื่องมือจัดฟันดามอนมีให้เลือกทั้งแบบใสและโลหะ
ข้อดีของการจัดฟันใส Invisalign
- ประสิทธิภาพในการรักษาที่รวดเร็วว่ามาก โดยใช้เวลา 6- 12 เดือนเท่านั้นขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของคนไข้
- เครื่องมือจัดฟัน Invisalign มีความใสและเนียนไปกับฟัน สังเกตเห็นยาก ทำให้ไม่เป็นจุดเด่นเวลายิ้มหรือพูดคุย
- สร้างสะดวกสบาย เพราะสามารถถอนเครื่องมือมาทำความสะอาดได้ และไม่สร้างความระคายเคืองต่อเหงือกและริมฝีปาก
ข้อเสียของการจัดฟันแต่ละแบบ
ข้อเสียของการจัดฟันแบบโลหะ
- มองเห็นได้ชัดเจน สำหรับผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอายุเยอะ ๆ อาจจะไม่เหมาะสม เครื่องมือจัดฟันแบร็กเก็ตและลวดโลหะมีลักษณะเด่นชัด ทำให้มองเห็นได้ง่ายเมื่อยิ้มหรือพูด
- ความไม่สบาย เพราะการใส่แบร็กเก็ตและลวดโลหะอาจทำให้รู้สึกต่อกระพุ้งแก้ม ทำให้เกิดแผลได้ง่ายจากการเสียดสี
- ใช้เวลานานในการจัดฟันหากเปรียบเทียบกับการจัดฟันแบบดามอน และการจัดฟันใส ซึ่งจะใช้เวลา 2 – 4 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน
ข้อเสียของการจัดฟันเซรามิก
- เครื่องมือจัดฟันที่ทำเซรามิกจะมีความเปราะบางกว่า ทำให้แตกหักง่ายหากไม่ระวัง หรือรับประทานของแข็ง ๆ ก็สามารถสร้างความเสียหายได้ง่าย
- ดูแลรักษายากกว่า ด้วยความที่เป็นเซรามิกสามารถติดสีได้ง่าย จึงไม่ควรรับประทานอาหารเช่น ชา กาแฟ เป็นต้น
- ราคาแพงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ ด้วยความที่เซรามิกมีราคาที่สูงและทำยากทำให้การรักษาแบบนี้แพงกว่า
ข้อเสียของการจัดฟันแบบดามอน
- การจัดฟันแบบดามอนมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบโลหะและแบบเซรามิก เนื่องจากเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพกว่าระบบที่มีเทคโนโลยีสูง
- ต้องรักษากับทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการจัดฟันดามอนโดยเฉพาะเท่านั้น
ข้อเสียของการจัดฟันใส Invisalign
- มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการจัดฟันทุกประเภท (ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล)
- ไม่สามารถรักษาปัญหาฟันใหญ่ ๆ หรือที่มีความซับซ้อนมาก ๆ ได้
- ต้องมีวินัยในการใส่ หากใส่เครื่องมือ Invisalign ไม่ครบ 22 ชั่วโมงต่อวันอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาไม่เป็นไปตามกำหนด
(เรียนรู้เพิ่มเติม: รู้ไว้ไม่มีพลาด! รวมข้อเสียของการจัดฟันแต่ละแบบ)
จัดฟันแล้วรูปหน้าเปลี่ยนจริงหรือไม่ ?
หนึ่งในเหตุผลที่หลาย ๆ คนอยากจัดฟันก็เป็นเพราะได้ยินมาว่าจัดฟันแล้วรูปหน้าจะเปลี่ยน รูปหน้าเรียวขึ้น ดั้งโด่งขึ้น แต่เรื่องนี้จริงหรือไม่ ? ก็ยังมีคนสงสัยอยู่ โดยตามหลักความเป็นจริงแล้วก็ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากหลาย ๆ เหตุผล ดังนี้
- ถอนฟัน ส่วนใหญ่ในการจัดฟัน การถอนฟันคือสิ่งแรกที่ทุกคนที่จัดต้องจะตองทำ การถอนฟันนั้นจะทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับการดึงฟัน ทำให้ใบหน้ามีการเข้ารูปมากขึ้น ดูเรียวเล็กลง
- จัดฝันผ่าขากรรไกร การจัดตำแหน่งของขากรรไกรเป็นการแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรควบคู่ไปกับการจัดฟันซึ่งทำให้เค้าโครงใบหน้ามีการเปลี่ยนไปด้วย
- แก้ปัญหารูปแบบของฟัน ในรูปแบบของปัญหาฟันบางประเภท เช่น ฟันเหยิน ฟันห่าง หรือฟันซ้อนกัน ปัญหาเหล่านี้ถูกแก้ไขด้วยการจัดฟัน โดยการจัดฟันจะช่วยให้ใบหน้ามีการเปลี่ยนของรูปทรง ดูกระชับขึ้น
ตารางเปรียบเทียบข้อดี/ข้อเสีย ของการจัดฟันแต่ละประเภท
เปรียบเทียบข้อดี/ข้อเสีย | Fast Smile | Metal Braces | Ceramic Braces | Damon Braces | จัดฟันใส D Smile |
ราคา | ปานกลาง | ต่ำ | สูง | สูง | ปานกลาง |
การมองเห็นเครื่องมือ | เห็น | เห็น | มองเห็นน้อย | เห็น | มองไม่เห็น |
ความระคายเคือง | มาก | มาก | มาก | ปานกลาง | น้อย |
ถอนออกได้ | ไม่ได้ | ไม่ได้ | ไม่ได้ | ไม่ได้ | ได้ |
ระยะเวลา | 18-24 /ด | 24-36/ด | 24-36/ด | 24/ด | 6-24/ด |
ทำความสะอาด | ยาก | ยาก | ยาก | ปานกลาง | ง่าย |
สียางจัดฟัน | มี | มี | มี | ไม่มี | ไม่มี |
การนัดหมาย | เดือนละครั้ง | เดือนละครั้ง | เดือนละครั้ง | เดือนละครั้ง | ตามตกลง |
ระยะเวลาในการจัดฟันแต่ละประเภท
สำหรับระยะเวลาในการจัดฟันเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอยากรู้มาก โดยการจัดฟันแต่ละประเภทจะใช้เวลาในการทำให้ฟันเคลื่อนที่เข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมไม่เหมือนกัน โดยการจัดฟันแต่ละแบบจะใช้ระยะเวลาโดยประมาณดังต่อไปนี้
- การจัดฟันแบบโลหะ ใช้เวลาในการจัดฟัน 2-4 ปี (ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน)
- การจัดฟันแบบเซรามิก ใช้เวลาในการจัดเท่ากับแบบโลหะ 2-4 ปี (ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน)
- การจัดฟันแบบดามอน ใช้เวลา 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน)
- การจัดฟันแบบใส Invisalign ใช้เวลา 6-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน)
อ่านเพิ่มเติม: เช็กให้ชัวร์! ระยะเวลาในการจัดฟันแต่ละประเภท
การจัดฟันเหมาะกับคนไข้อายุเท่าไหร่
ในการจัดฟันสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกช่วงวัย แต่ช่วงวัยที่ดีที่สุดในการจัดฟันเพื่อให้ฟันเข้ามาอยู่ในตำแหน่งได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือช่วงที่ฟันแท้ขึ้นครบทุกซี่นั้นคือ ช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น (อายุ 7-18 ปี) ในวัยนี้ขากรรไกรยังไม่มีความแข็งแรงเท่ากับผู้ใหญ่ ทำให้การเคลื่อนที่ของฟันนั้นง่ายกว่า สามารถแก้ไขปัญหาการสบฟัน การเรียงตัวของฟัน และการเจริญเติบโตของขากรรไกรได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
อย่างไรก็ตามถึงว่าคุณจะอายุเกิน 20 ปีหรือจะอายุ 40 ปี ก็สามารถจัดฟันได้ แต่อาจจะใช้เวลาที่มากกว่าคนที่มีอายุน้อยเท่านั้น และสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันที่ซับซ้อน การจัดฟันอาจต้องทำร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรหรือการรักษาอื่น ๆ ร่วมด้วย
การจัดฟันต้องถอนฟันหรือไม่ ?
ส่วนใหญ่แล้วในการจัดฟันมักจะมีการถอนฟันไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตามเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการจัดฟัน และการเคลื่อนที่ให้เข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดได้เร็วขึ้น สำหรับการถอนฟันในการจัดฟันนั้น จะช่วยให้ลดความแออัดของฟัน ช่วยสร้างพื้นที่สำหรับการเคลื่อนที่ของฟันและการเรียงตัวของฟันให้เป็นระเบียบ และมีพื้นที่ในขากรรไกรให้
ก่อนที่จะถอนฟันนั้นทันตแพทย์จะวินิจฉัยและการประเมินก่อนว่าควรจะถอนฟันกี่ซี่ หรือบางคนอาจจะไม่จำเป็นต้องถอนฟันก็มี แต่ฟันหลัก ๆ ที่ทันตแพทย์จะถอนคือฟันคุด ซึ่งเป็นฟันที่ไม่มีประโยชน์และอาจจะสร้างความเสียหายต่อกระบวนการจัดฟันในอนาคตได้
การดูแลฟันและช่องปากระหว่างจัดฟัน
เพื่อให้การจัดฟันเป็นไปตามแผนที่กำหนด และไม่เกิดปัญหาใด ๆ ในระหว่างการจัดฟัน การดูแลรักษาทำความสะอาดฟันให้ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากมาก เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ ที่จะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันถูกขยายออกไป
- แปรงฟันอย่างถูกวิธี และใช้แปรงฟันสำหรับการจัดฟัน ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่มและแปรงฟันให้ทั่วถึง รวมถึงบริเวณรอบๆ แบร็กเก็ตและลวดจัดฟัน
- ใช้ไหมขัดฟัน แบบพิเศษสำหรับผู้ที่มีการจัดฟัน เพื่อขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ติดอยู่ระหว่างฟันและลวดจัดฟัน และตามเครื่องมือจัดฟันเพื่อไม่ให้เศษอาหารไปสร้างแบคทีเรียกัดกินฟัน
- การรักษาความสะอาดของอุปกรณ์จัดฟัน ไม่ว่าคุณจะจัดฟันโลหะ ดามอน หรือจัดฟันใส ก็ควรจะทำความสะอาดเครื่องเป็นประจำตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
- เข้าพบทันตแพทย์ตามที่นัดหมายอย่างตรงต่อเวลา โดยเฉพาะการจัดฟันเหล็กจะต้องเข้าไปปรับเครื่องมือและเปลี่ยนยากเป็นประจำ หากผิดนัดอาจจะทำให้การรักษานานยิ่งขึ้น
- การหลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำให้เครื่องมือการจัดฟันเสียหาย เช่น การหลีกเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียว เพราะอาจทำให้แบร็กเก็ตหรือลวดจัดฟันเสียหายได้ง่ายมาก ๆ
เรียนรู้เพิ่มเติม: บอกต่อ 7 วิธีการดูแลฟันและช่องปากระหว่างจัดฟัน
อาหารที่ไม่ควรรับประทานในการจัดฟัน
การจัดฟันที่ต้องใส่เครื่องมือจัดฟันอยู่ตลอดเวลา ทำให้การดูแลรักษาฟันเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ รวมถึงอาหารการกินการเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันการเสียหายของเครื่องมือจัดฟันและลดความเสี่ยงของฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ซึ่งจะทำให้การรักษาเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังต่อไปนี้
- อาหารแข็งและกรอบ เช่น ถั่ว น้ำแข็ง ป๊อปคอร์น ขนมปังกรอบ บิสกิตแข็ง หรือแครอทดิบและผักผลไม้ที่แข็งอื่น ๆ
- อาหารเหนียวและหนืด เช่น ขนมหวานเหนียว ทอฟฟี่ กัมมี่ ลูกอมเหนียว เนื้อสัตว์ที่เหนียว
- อาหารที่เคี้ยวยาก เช่น ผลไม้แห้ง , เนื้อเค็มหรือเนื้อแห้ง
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มที่มีความหวาน
อ่านเพิ่มเติม: อาหารอะไรบ้าง? ที่ไม่ควรรับประทานในการจัดฟัน
จัดฟันที่ไหนดี ?
สำหรับการจัดฟันไม่ว่าจะเป็น การจัดฟันแบบโลหะ จัดฟันเซรามิก จัดฟันแบบดามอน และจัดฟันใส Invisalign ให้การรักษาประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเข้ามาที่ Dio Dental Clinic ให้บริการจัดฟันทุกประเภทด้วยทันตแพทย์จัดฟันมืออาชีพและมีประสบการณ์สูง สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดเพื่อให้รอยยิ้มของคนไข้สวยงามและมั่นใจมากขึ้น สามารถเข้ามาปรึกษาและสอบถามราคาได้ที่หน้าเว็บไซต์หรือที่หน้าคลินิกได้เลย
ทำไมต้องจัดฟันสองรอบ ?
หลายๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยว่าถ้าหากเราจัดฟันไปแล้วจะสามารถจัดฟันอีกรอบหรือรอบที่สองได้อีกหรือไม่ คำตอบก็คือว่าได้ เพราะว่าในบางกรณีก็จะมีความจำเป็นที่ต้องจัดฟันสองรอบ แต่ส่วนใหญ่แล้วเหตุผลที่จัดฟันสองรอบก็เป็นเพราะว่าผลลัพธ์ที่ได้จากรอบแรกไม่เป็นที่พึงพอใจ หรือฟันล้มจากการไม่ใส่รีเทนเนอร์
แต่การจัดฟันรอบที่สองนั้นจะไม่ได้มีความแตกต่างจากการจัดฟันรอบแรกมากซักเท่าไหร่
(อ่านเพิ่มเติม: ทำไมต้องจัดฟันรอบสอง จัดนานไหม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่)
จัดฟันราคาเท่าไหร่ ?
จัดฟันเหล็ก | จัดฟันเซรามิก | จัดฟันดามอน | จัดฟัน Fast Smile | |
ค่าใช้จ่ายจัดฟัน | xxx | xxx | xxx | xxx |
รีวิวการจัดฟัน
คำถามที่พบบ่อย FAQ
ต้องเคลียร์ช่องปากก่อนที่จะจัดฟันอย่างแน่นอน เพื่อให้ระหว่างการจัดฟันไม่เกิดปัญหา จะต้องทำการรักษาฟันที่มีปัญหาเช่น อุดฟันผุ ขูดหินปูน รักษารากฟัน ถอนฟันคุด ถอนฟันซี่อื่น ๆ เป็นต้น
สามารถเข้ามาสอบถามที่ Dio Dental Clinic เพื่อการตรวจและประเมินเบื้องต้น เลือกประเภทการจัดฟันที่ต้องการ วางแผนการรักษา ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
การจัดฟันจะสร้างความเจ็บปวดในช่วงแรก ๆ ในการใส่เครื่องมือ ซึ่งอาจจะใช้เวลาปรับตัว 5-7 วัน และช่วงปรับเครื่องมือหรือใส่ยางรัดเท่านั้น
สามารถจัดฟันได้อย่างแน่นอน การจัดฟันนั้นเป็นการรักษาฟันที่ไม่จำกัดอายุ แต่หากจัดฟันตั้งแต่อายุยังน้อยจะทำให้การจัดฟันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า
จริง ๆ แล้วการจัดฟันไม่ว่าประเภทไหนก็มีความสามารถจัดฟันให้เรียงสวยได้เหมือนกันทั้งหมด โดยขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทันตแพทย์จะแนะนำการจัดฟันประเภทต่าง ๆ ที่เหมาะสมให้กับคนไข้อยู่แล้ว
การจัดฟันมีส่วนช่วยให้หน้าเรียวได้จริง แต่ก็อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่จะเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน และการเคลื่อนที่ของฟันว่ามีผลต่อกรามหรือกระดูกขากรรไกรหรือไม่
สรุป
การเลือกการจัดฟันเป็นกระบวนการรักษาปรับปรุงฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ให้ฟันเรียงตัวสวยเพื่อช่วยให้คนไข้มั่นใจในรอยยิ้ม ในการจัดฟันนั้นมีอยู่หลายรูปแบบที่จะช่วยรักษาปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ฟันสบ และอื่น ๆ ที่เราได้บอกไปได้ทั้งหมด การปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันจะช่วยให้คุณได้ข้อมูลและคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพฟันและความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์จัดฟันมืออาชีพได้ที่ Dio Dental Clinic