รากฟันเทียม (Dental Implant) หรือการฝังรากฟันเทียมเป็นส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ ในการปลูกหรือฝัง รากฟันเทียม แบบถาวร นอกจากนี้รากฟันเทียมเป็นวิธีการรักษาที่จะทดแทนฟันที่มีการสูญเสียฟันไปที่ดีที่สุด รวมไปถึงรากฟันเทียม เป็นวิธีการรักษาที่เป็นที่นิยมอีกด้วย
แต่ด้วยการพัฒนาของการรักษาทางด้านทันตกรรมในทุกวันนี้ เราสามารถสร้างรากฟันขึ้นมาใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่แบบติดแน่น ทำให้การใช้ชีวิตของคุณเป็นปกติเหมือนเดิม
รากฟันเทียม คือ อะไร
Dental Implant หรือ รากฟันเทียม คือ วิธีการรักษาฟันที่สูญเสียหรือเสื่อมสภาพไปให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ โดยรากฟันเทียมจะทำจากไทเทเนียม เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยและเข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี การทำรากเทียมมีความแข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนาน
โดยจะทำการฝังรากฟันเทียมเข้าไปยังตำแหน่งฟันที่เกิดความเสียหาย หรือฟันที่หายไป ด้วยการผ่าตัดนำรากฟันเทียมโลหะฝังลงไปในตำแหน่งของขากรรไกรเพื่อทดแทนตำแหน่งที่สูญเสียไป เพื่อให้รากฟันเทียมสามารถทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกรได้ การใส่รากฟันเทียมมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ออกแบบการทำรากเทียมโดยระบบดิจิตัลและระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้รับการรักษามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ในการรักษาฟันโดยการใส่รากฟันเทียม คุณหมอฟันหรือทันตแพทย์จะนำฟันเทียมใหม่มายึดติดกับรากฟันเทียมอีกที เพื่อให้ฟันที่สูญเสียไปกลับมาใช้งานได้อย่างเดิม โดยจะครอบฟันเทียมที่ยึดติดกับกระดูกขากรรไกรของเรา จะไม่มีวันหลุดออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน
องค์ประกอบของรากฟันเทียม
ในการทำรากฟันเทียม จะมีส่วนประกอบหลัก ๆ อยู่ 3 ประเภท ดังนี้
1.Implant Body or Fixture คือ เป็นส่วนที่ฝังอยู่ใต้เหงือก ซึ่งจะเป็นสกรู (Screw) ที่ทำจากไทเทเนียม เพื่อยึดตัวฟันเทียมให้มั่นคงด้วยการฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกร
2.Abutment เป็นส่วนที่รับรองตัวครอบฟัน ถูกนำมาใช้ทดแทนโครงสร้างแกนฟัน ซึ่งจะอยู่ระหว่างรากฟันเทียมและครอบฟัน
3.ครอบฟันบนรากฟันเทียม หรือ Crown เป็นส่วนของตัวฟันที่ทำจากเซรามิก มีสีและรูปร่างเหมือนฟันธรรมชาติทำหน้าที่เป็นฟันปลอมที่ครอบฟันบนรากฟันเทียม
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การครอบฟันเซอร์โคเนีย
รากฟันเทียม ทำมาจากอะไร
ไทเทเนียมคือสิ่งที่ใช้ทำรากเทียมหรือรากฟันเทียม มีความคงทนและเป็นวัสดุที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับร่างกายมนุษย์ได้อย่างดี ซึ่งจะทันตแพทย์จะใส่รากฟันเทียมเข้าไปทำการยึดติดกับตัวครอบฟันที่ทำจากวัสดุเซรามิก มีสีและรูปร่างเหมือนกับตัวฟันตามธรรมชาติ
การทำงานของ รากฟันเทียม หลังจากใส่ไปแล้ว
สำหรับหลักการทำงานของรากฟันเทียม คือ การเปลี่ยนหรือสร้างฟันขึ้นมาใหม่แบบถาวร โดยรากฟันเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกร โดยจะต้องทำทีละขั้นตอน เมื่อรากฟันเทียมติดกับกระดูกขากรรไกรประสานกันได้สนิทแล้วก็จะทำการครอบฟันเทียมลงไป ให้กระดูกขากรรไกรทำงานร่วมกับรากฟันเทียมอย่างมีประสิทธิภาพไม่เลื่อน หรือลื่นหลุดออกจากจุดที่ต้องการ
เพื่อให้ฟันที่ทำรากฟันเทียมทำงานได้ตามปกติ ไม่ทำให้ฟันนั้นหลุดเคลื่อนที่ได้เหมือนกับฟันปลอมถอดได้ และให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าอีกด้วย
ประโยชน์ของการทำรากฟันเทียม
ประโยชน์ของการทำรากฟันเทียมหรือการฝังรากฟันเทียม ทำให้การใช้ชีวิตของคุณกลับมาเป็นปกติ สามารถพูดและรับประทานอาหารได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลใด ๆ การฝังรากฟันเทียมนี้ ช่วยในการทำฟันปลอม การครอบฟัน และที่ยึดฟันปลอมบนรากฟันเทียม มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น และการทำรากฟันเทียมให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติในการพูดการเคี้ยว เพราะการทำฟันปลอมแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกไม่สบาย ไม่เป็นธรรมชาติ รู้สึกเจ็บนูน และหลุดเลื่อนได้ง่ายๆ
(เรียนรู้เพิ่มเติม: การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไร)
รูปแบบการทำ รากฟันเทียมแบบติดแน่น
Conventional Implant
เป็นประเภทการทำรากฟันเทียมแบบดั้งเดิมและแม่นยำที่สุด อย่างไรก็ตามการรักษานี้มีระยะเวลาจำกัด หลังถอนฟัน จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนกว่ากระดูกจะหายสนิท จากนั้นจึงใส่รากฟันเทียมและปล่อยให้กระดูกยึดติดกับพื้นผิวกับรากฟันเทียมต่อไปอีก 3-6 เดือนก่อนที่จะสวมที่ครอบฟันหรือมีการทำสะพานฟันบนรากเทียมนั้น
Immediate implant placement
ใช้เวลานานกว่าฝังรากฟันเทียมแบบแรก อย่างแรกคือหลังจากการถอนฟัน จากนั้นจึงรอการใส่รากฟันเทียม ประมาณ 3-6 เดือน แล้วจึงมีการใส่ฟันปลอมหรือครอบฟันลงบนรากฟันเทียม เหมาะสำหรับฟันหน้าหรือฟันหลังที่มีกระดูกเพียงพอ ใช้ในการถอนฟันแล้วใส่รากฟันเทียม ควบคู่ไปกับการปลูกกระดูก คุณหมอฟันที่จะฝังรากฟันเทียมเฉพาะทางจะต้องประเมินความเป็นไปได้ของแต่ละสถานการณ์ รวมถึงการเอกซเรย์ 3 มิติ
(อ่านเพิ่มเติม: รากฟันเทียมแบบทันที ทำรากฟันเทียมเสมือนฟันจริง ใช้งานได้ทันที)
Immediate loaded implant
การฝังรากฟันเทียมแบบทันที หมายถึงการวางรากฟันเทียม สามารถฝังรากเทียมได้ในวันเดียวกันพร้อมกับครอบฟัน ข้อดีคือประหยัดเวลาได้มาก แต่ทันตแพทย์ที่จะฝังรากฟันเทียมควรประเมินโอกาสของแต่ละสถานการณ์อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนกระดูกที่มีอยู่ ลักษณะของการถูกกัด รวมความคาดหวังในการรักษาของผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้เกิดปัญหาตามมาน้อยที่สุด
ขั้นตอนการทำ รากฟันเทียม
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปาก เอ็กซเรย์ หรือ CT-Scan หากจำเป็นจะใช้คุณหมอฟันเฉพาะทางในการทำรากเทียม เพื่อประเมินความหนาของเนื้อเยื่อบนกระดูกขากรรไกร และสันเหงือก
- อาจใช้การพิมพ์ปากเพื่อวางแผนการรักษาขึ้นอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น และกำหนดตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับฝังรากฟันเทียมไทเทเนียม
- เตรียมพื้นที่สำหรับการฝังรากเทียม ซึ่งในกรณีที่กระดูกขากรรไกรไม่เพียงพอ อาจจะต้องปลูกถ่ายกระดูกเพิ่มก่อน
- ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ และทำการผ่าตัดเพื่อฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกร
- หลังจากนั้นฝังรากฟันเทียมประมาณ 2-3 เดือน ทันตแพทย์จะนัดมาทำครอบฟัน และติดตามผลหลังจากการผ่าตัด
รักษารากฟันเทียม มีกี่แบบ
รากฟันเทียม 1 ซี่ (Single Dental Implant)
เหมาะสำหรับกรณีที่ฟันซี่เดียวหายไป หรือหลายซี่แต่ไม่ได้อยู่ติดกัน จะเป็นการฝังรากฟันเทียมแบบเร่งด่วนสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไปทันทีจากอุบัตเหตุ
รากฟันเทียม หลายซี่ (Implant-Support Bridge)
เหมาะสำหรับกรณีที่ฟันหายไปจำนวน 2 ซี่ขึ้นไปที่อยู่ติดกัน โดยใช้การติดสะพานฟัน และจะมีแกนฟันที่เชื่อมต่อระหว่างรากฟันเทียมและสะพานฟันเอาไว้
รากฟันเทียม ทั้งปาก (Implants-Retained Denture)
เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการทดแทนฟันบนหรือฟันล่างทั้งชุด โดยจะวางเรียงบนแนวเหงือกของคนไข้ จะมีทั้งการทำรากฟนทั้งระบบที่อาจจะใส่รากฟันข้างละ 3-4 ชิ้นแล้วทำสะพานฟันหรือครอบฟันต่อกัน
รากฟันเทียม All on 4 คืออะไร ?
รากฟันเทียมทั้งปากแบบ All on 4 คือ ทางเลือกทางทันตกรรมที่ใช้รากฟันเทียม 4-6 ชิ้นในการรักษาเพื่อให้ฟันที่ถูกถอนทิ้งไป กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม เหมือนกับฟันธรรมชาติ เป็นวิธีการรักษาแบบใหม่ที่ใส่อุปกรณ์ยึดรากฟันเทียมกับขากรรไกร โดยใช้รากฟันเทียม 4 ชิ้นต่อกับ 1 ขากรรไกร
รากฟันเทียม All on 4 นั้นมีข้อดีที่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นมีลักษณะเหมือนฟันจริง ฟันธรรมชาติ สามารถใช้งานได้เหมือนกับฟันแท้ หรือทดแทนฟันที่สูญเสียไปและสามารถใช้งานได้ทันที รวมไปถึงช่วยให้ได้รอยยิ้มที่สวยงามและมีความมั่นใจกลับคืนมา
รากฟันเทียม All on 6 คืออะไร ?
นอกจากจะมีการรักษารากฟันเทียมแบบ All on 4 แล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีรากฟันเทียม All on 6 ด้วยเช่นกัน โดยรากฟันเทียมแบบ All on 4 นั้นจะเป็นการฝังรากฟันเทียม 6 ชิ้นในตำแหน่งที่สำคัญของกระดูกขากรรไกร โดยรากฟันเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของสะพานฟันหรือฟันปลอม โดยจะนำไปเชื่อมกับรากฟันเทียมเพื่อฟื้นฟูฟันที่หายไป
โดยข้อดีของการทำรากฟันเทียมแบบ All on 6 นั้น หลักๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือมีความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้รากเทียมมากถึง 6 ชิ้น รวมไปถึงยังทำให้ผู้ป่วยนั้นสามารถประทานอาหาร พูดและยิ้มได้อย่างมั่นใจ สบายใจมากขึ้น และลักษณะฟันนั้นดูมีความเป็นธรรมชาติ
รากฟันเทียม แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?
ในการวิธีการรักษาทางทันตกรรมโดยการใส่รากฟันเทียม Dental Implant ถือเป็นการทำฟันขึ้นมาใหม่ทั้งระบบเพื่อทดแทนฟันที่เสียหายหรือหมดสภาพไปในระยะยาว ทำให้มีประโยชน์ด้านการใช้งานและความสวยงามแก่คนไข้ รวมไปถึงแก้ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
- ฟื้นฟูลักษณะฟันที่เสียหาย หรือฟันที่หายไป
- ปรับปรุงฟังก์ชั่นการกัดและเคี้ยวให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
- การฝังรากเทียม เป็นรักษาเสถียรภาพของเนื้อเยื่อฟัน กราม และฟันข้างเคียงโดยรอบ
- การฝังรากเทียมป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
การปลูกรากฟันเทียมมีอัตราความสำเร็จสูงถึงประมาณ 95% และส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องการทำรากฟันเทียม เพราะวิธีการนี้ดีกว่าการฟันปลอมอย่างแน่นอน เพราะคุณจะสามารถบดเคี้ยวอาหารต่าง ๆ ได้อย่างปกติ และดูแลทำความสะอาด ใช้ไหมขัดฟันได้เหมือนกับฟันจริง ๆ
ใครบ้างที่สามารถรับการรักษาฝัง รากฟันเทียม ได้ ?
ผู้ที่สามารถเข้ารับการฝังรากฟันเทียมโดยการใส่ รากเทียม คือ
- ผู้ที่มีการสูญเสียฟันแท้จากอุบัติเหตุ หรือผู้ที่สูญเสียฟันจากการเสื่อมสภาพของฟันผู้ที่มีฟันแตก หัก ซึ่งจะต้องเข้าทำการรักษาด้วยการถอนฟันจากคุณหมอฟัน
- ผู้ที่ทำฟันปลอมแบบถอดได้ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
- ผู้ที่ต้องการใส่ฟันเพียงซี่เดียว โดยฟันข้างเคียงยังอยู่ในสภาพดี
- ผู้ที่มีปัญหากระดูกล่างขากรรไกรยุบตัวลงมาจากการใส่ฟันปลอมทั้งปาก
- ผู้ที่ไม่ชอบในการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
- ผู้ที่ไม่ต้องการกรอฟันในการทำสะพานฟันติดแน่น
- ผู้ที่สุขภาพดี หรือมีโรคประจำตัวที่สามารถควบคุมได้ สามารถเข้ารับการฝังรากเทียมได้
ใครที่ไม่เหมาะในการรักษา รากฟันเทียม
- ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ อยู่ในบริเวณที่ต้องการฝังรากฟันเทียม
- ผู้ที่มีโรคทางทันตกรรมอื่น ๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์
- ผู้ที่มีมวลกระดูกไม่เพียงพอ เนื่องจากการทำรากฟันเทียมจำเป็นต้องมีมวลกระดูกที่หนาแน่นและเพียงพอที่จะยึดกับรากฟันเทียม กรณีมีมวลกระดูกน้อยคุณอาจต้องได้รับการปลูกกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม
- การสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่สามารถรบกวนกระบวนการหายของแผล ทำให้มีโอกาสสูงที่การทำรากฟันเทียมจะล้มเหลว แต่หากไม่สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้ คุณหมอฟันอาจแนะนำตัวเลือกในการทดแทนฟันด้วยวิธีอื่น
- ผู้ที่ตั้งครรถ์ หากคุณกำลังตั้งครรถ์อยู่ คุณหมอฟันอาจเลื่อนการทำรากฟันเทียมออกไปเป็นหลังคลอด เนื่องจากความจำเป็นในการเอ็กซเรย์ ทั้งนี้ควรปรึกษาคุณหมอฟันก่อนการทำรากฟันเทียม
ระยะเวลาการรักษา รากฟันเทียม
สำหรับรักษาปลูกรากฟันเทียม มีการแบ่งขั้นตอนการรักษาทางทันตกรรมเป็น 2 ครั้ง ในการแรกจะทำให้การฝังรากฟันเทียมลงไปในตำแหน่งที่ต้องได้รับการรักษา และรอเวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก (ขึ้นอยู่กับสภาพของกระดูกของผู้ป่วย) ในครั้งที่สอง มีการครอบฟันบนรากเทียมเพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติรวม ๆ แล้วระยะเวลาสิ้นสุดการรักษาจะอยู่ที่ 3-6 เดือน
การเตรียมตัวก่อนรักษา รากฟันเทียม
- เข้าปรึกษาคุณหมอทันตแพทย์ฝังรากเทียมที่มีความเชี่ยวชาญสูงกับ Dio Dental เพื่อวางแผนการรักษาทันตกรรมฝังรากฟันเทียม เช่น จำนวนการปลูกรากฟันกี่ซี่ที่ต้องการรักษา และจำเป็นต้องมีการปลูกกระดูกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ หรือรักษารากฟันเทียม ชลบุรีต้องทำอย่างไรบ้าง
- ก่อนทำรากฟันเทียมควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว วางแผนการประเมินก่อนดำเนินการรากฟันเทียม เพื่อไม่ให้การฝังรากเทียม มีผลกระทบกับการมีโรคประจำตัวของคนไข้ และเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อตัวคนไข้
- ในกรณีที่จำเป็นต้องปลูกรากฟันเทียมหลายซี่หรือมีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างมีนัยสำคัญ อาจจำเป็นต้องเอ็กซเรย์ 3 มิติเพื่อวางแผนการรักษาทันตกรรม
อาการหลังจากรักษา รากฟันเทียม
ด้วยการรักษาแบบ รากฟันเทียม นั้นอาจจะมีการผ่าตัดหลายครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เช่น เหงือกและใบหน้าบวม เหงือกหรือผิวอาจจะมีรอยช้ำ รู้สึกปวดบริเวณที่ใส่รากเทียม หรืออาจจะมีเลือดออกเล็กน้อย โดยอาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติและจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าหากเวลาผ่านไปนานแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการหนักขึ้น ควรรีบปรึกษาศัลแพทย์ช่องปากทันที
(เรียนรู้เพิ่มเติม: เช็กให้ชัวร์ก่อนทำ! อาการหลังทำรากฟันเทียมที่อาจเกิดขึ้นได้)
ขั้นตอนการดูแลรักษาการฝังรากฟันเทียมที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียวต้องเคี้ยวมาก เพราะอาจทำให้รากฟันเทียมหลุดออกได้ เพราะถ้าส่วนของรากฟันเทียมหลุดออกไป การซ่อมแซมรากฟันเทียมและใส่กลับเข้าที่ จะต้องเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากมากขึ้น
- วินัยในการทำความสะอาดปากที่ดี เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพื่อรักษาสุขภาพฟันไม่ให้เกิดปัญหาอย่างเหงือกอักเสบ ผู้ป่วยสามารถทำความสะอาดฟันมีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากได้ตามปกติ เช่น แปรงฟันให้ถูกต้อง ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือใช้ไหมขัดฟันหลังทานอาหาร และตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ และเพื่อให้รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีหน้าที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก เช่น โรคเหงือกอักเสบ การติดเชื้อ ฟันผุ และมะเร็งในช่องปาก และส่งผลเสียกับรากฟันเทียมโดยตรง
ข้อดี-ข้อเสียของการใส่รากฟันเทียม
ข้อดีของการใส่รากฟันเทียม
- สามารถใช้รากฟันเทียมแทนรากฟันธรรมชาติ ผู้สวมใส่รากเทียมจะรู้สึกราวกับว่ารากเทียมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ตำแหน่งฟันมีความเป็นธรรมชาติ
- ช่วยลดโอกาสการสูญเสียฟัน โดยปกติแล้วหากฟันธรรมชาติหายไปและไม่มีการรักษาทดแทน อาจทำให้ฟันข้างเคียงเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมไปสู่ปัญหาการสูญเสียฟันได้
- ช่วยให้การพูดเป็นปกติมากขึ้น ข้อดีของรากฟันเทียมที่รักษาแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนยังมีฟันธรรมชาติอยู่
- ช่วยให้การรับประทานอาหารเป็นปกติมากขึ้น รากฟันเทียมจะยึดติดกับเหงือกเหมือนรากฟันธรรมชาติ การป้องกันไม่ให้ขยับเหมือนฟันปลอมแบบถอดได้
- ช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น
- รากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องกรอฟันข้างเคียง เพื่อที่จะเตรียมแนบสะพานฟันให้ติดกับฟัน แต่สามารถเจาะลึกลงไปในฟันที่จะแทนที่ได้เลย
- รากฟันเทียมที่มีความทนทานสูง สามารถมีอายุการใช้งานอยู่ได้ตลอดชีวิตหากได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างเหมาะสม และไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคเหงือก
ข้อเสียของการใส่รากฟันเทียม
- หากประสบอุบัติเหตุทำให้ฟันแท้หลุดหรือหัก จนต้องใส่รากฟันเทียม แต่อายุไม่ถึง 18 ปี จะไม่สามารถใส่รากเทียมได้ เพราะกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือผู้ที่มีปัญหาอื่น ๆ จะต้องได้รับการพิจารณาจากคุณหมอฟัน ซึ่งจะประเมินการรักษาว่าสามารถใส่รากฟันเทียมได้หรือไม่
- ใช้เวลานานในการรักษาในแต่ละขั้นตอน ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษารากฟันบางคนใช้เวลาเป็นปี
- มีค่าใช้จ่ายในการรักษารากเทียมที่สูงกว่าการรักษาทันตกรรมแบบอื่น ๆ
รากฟันเทียม กับ ฟันปลอม ต่างกันอย่างไร ?
ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่สูญเสียฟัน หนึ่งในทางเลือกในการแก้ปัญหาคือการใส่ฟันปลอม แต่ถ้าบางคนก็เลือกที่จะทำรากฟันเทียมไปเลย แต่ทั้งรากฟันเทียมและฟันปลอมนั้นก็มีข้อแตกต่างกันอยู่พอสมควร เช่น
- ฟันปลอมมักจะต้องกินกาวเพื่อให้ยึดติดในปาก หลายๆ ครั้งอาจจะต้องใช้กาวใหม่หลังมื้ออาหาร ส่วนรากฟันเทียมนั้นไม่ต้องใช้กาว อยู่ทนได้โดยไม่ต้องถอด
- การทำรากฟันเทียมสามารถใช้แปรงฟันและไหมขัดฟันกับรากฟันเทียมได้เลยในการทำความสะอาด ส่วนฟันปลอมนั้นต้องหมั่นถอดออกมาทำความสะอาด
- รากฟันเทียมนั้นเป็นเหมือนการได้ใช้ฟันจริงๆ ไม่ได้ส่งผลต่อรสชาติอาหารแต่อย่างใด แต่ในบางกรณีของฟันปลอม เช่น ฟันปลอมแบบมีครอบหลังคาปากนั้นมักจะทำให้การรับรู้ในรสชาตินั้นไม่สมบูรณ์
- รากฟันเทียมนั้นจะมีการยึดติดอย่างแน่นหนา ไม่หลุดออกมาง่ายๆ แต่กับฟันปลอมนั้นอาจจะมีการหลุดออกมาขณะรับประทานอาหารหรือขณะพูดได้
ต้องการรักษารากฟันเทียมภายใน 1 วัน ทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันและต้องการที่จะทำรากฟันเทียมในทันที นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะถ้าหากปล่อยให้ปัญหานี้ไว้นาน ๆ อาจจะส่งผลต่อทำเกิดความเสี่ยงของอาการเหงือกร่น รวมไปถึงการละลายของกระดูก
ทั้งนี้การรักษารากฟันเทียม ชลบุรี หรือทำรากฟันเทียมภายใน 1 วันนั้นนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพกระดูกขากรรไกรที่สมบูรณ์ มีปริมาณมวลกระดูกที่หนาแน่นพอในการรักษารากฟันเทียม แต่ทั้งควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทำการรักษา
(อ่านเพิ่มเติม: ต้องการทำรากฟันเทียมภายใน 1 วัน ทำอย่างไร?)
รักษารากฟันเทียม ที่ไหนดี?
นี่คือหนึ่งในคำถามที่สำคัญมาก ๆ ในการที่จะรักษาการสูญเสียฟันโดยการใช้เทคนิครากฟันเทียม หรือการรักษารากฟันเทียม ชลบุรี เพราะว่าในการเลือกคลินิกทันตกรรมหรือสถานพยาบาลอาจจะส่งผลต่อการรักษารากฟันเทียมได้ เพราะถ้าหากเราเลือกทำรากฟันเทียมกับคลินิกทันตกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือความปลอดภัยต่ำก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาด้านทันตกรรมอื่น ๆ ตามมาได้อีก
สิ่งที่ควรคำนึงถึงการเลือกคลินิกทันตกรรมในการทำรากฟันเทียมนั้นมีหลายข้อ ดังนี้
- คลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน
- ทันตแพทย์มีความเชี่ยวชาญ
- อุปกรณ์ทันตกรรมที่ทันสมัย
- การเดินทางสะดวก
ทำไมต้องรักษารากฟันเทียม ชลบุรีกับ Dio Dental
สามารถเข้าทำการรักษารากเทียมดิจิทัล หรือรากฟันเทียม ชลบุรีที่ Dio Dental เพราะที่ Dio Dental เป็นคลินิกทันตกรรมที่มีให้บริการรักษารากฟันเทียม โดยคุณหมอฟันหรือทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง พร้อมเข้าไปดูแลปัญหาช่องมากด้วยเครื่องมือถือที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีในการวางแผนผ่าน Digital 3D และ CT-Scan มีแลป
ออกแบบและผลิตชิ้นงานเซรามิก Zirconia ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้การใส่รากฟันเทียมของผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย โดยทางดีโอ้มีผู้เข้ามารักษาการทำรากฟันเทียมมากกว่าสองพันซี่ จึงสามารถมั่นใจในทุก ๆ ขั้นตอนการรักษาที่ Dio Dental คลินิกทันตกรรมชั้นนำของเมืองไทยได้เลย
ทำรากฟันเทียมแพงหรือไม่ ราคาเท่าไหร่
ค่ารักษารากฟันเทียม Digital ***เริ่มต้นที่ราคา 25,599 บาท/ซี่
(อ่านเพิ่มเติม: ทำรากฟันเทียมแพงหรือไม่ มีราคาไหนบ้าง)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รากฟันเทียมเป็นการรักษาฟันที่มีการสูญเสียฟัน หรือฟันที่หมดสภาพในการใช้งานตามอายุ เพื่อให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติอีกครั้ง
ในการทำรากฟันเทียม Dental Implant ในแต่ละขั้นตอนการทำรากฟันเทียมใช้เวลารวมกันประมาณ 3 เดือน โดยเฉพาะการ ฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูก หรือยึดติดกับกระดูกฝังไปในกระดูกขากรรไกรจะใช้เวลานานที่สุด และครอบฟันบนรากฟันใช้เวลาน้อยสุด
“ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม?” เป็นคำถามที่คนไข้มักจะเป็นการกังวล โดยส่วนใหญ่แล้วการทำรากฟันเทียมจะมีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อย เนื่องจากจะทำภายใต้ยาชาเฉพาะที่ และเมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลย ส่วนอาการเจ็บหลังจากการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละคน รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความแตกต่างของลักษณะสันกระดูก ปริมาณของกระดูก เป็นต้น
ทำรากเทียมแบบถาวรในขณะที่ใส่ฟันปลอดอยู่ สามารถทำรากฟันเทียมได้ ซึ่งจะส่งผลดีกับการใช้ชีวิตมากขึ้น และยังสามารถฝังรากฟันเทียมทั้งปากได้ด้วย
เนื่องจากรากฟันเทียมทำมาจากไทเทเนียมมีความทนทาน เเละสามารถใช้งานได้เหมือนกันฟันจริง อายุการใช้งานจึงขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการทำความสะอาด ซึ่งจะสามารถอยู่ได้นานถึง 10-20 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นก็ได้เช่นกันขึ้นอยู่กับการดูแลที่เหมาะสมตามคำแนะนำของทันตแพทย์
ทันตกรรมรากเทียม หรือการรักษาด้วยรากฟันเทียมไปในกระดูกขากรรไกร เวลาในการรักษาให้ติดกับกระดูกขากรรไกร ใช้เวลาในการรักษา ประมาณ 3 เดือน ถึง 6 เดือน
การทดแทนฟันที่หายไป คุณหมอฟันหรือทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำรากฟันเทียมมากกว่าหากมีงบประมาณการรักษาเพราะ การทำรากเทียม ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติของเรา รักษาด้วยรากฟันเทียมที่ดีที่สุด ในกรณีมีงบไม่มากพอก็สามารถทำฟันปลอดไปก่อนได้
ปกติแล้วคุณหมอฟันหรือทันตแพทย์จะแนะนำให้ต้องมีการจัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ก่อนที่จะทำรากฟันเทียม เพราะรากฟันเทียมหรือการฝังรากเทียมนั้นจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เหมือนฟันธรรมชาติจึงไม่สามารถมีการจัดฟันได้ แต่ถ้าหากตำแหน่งที่จะฝังรากฟันเทียมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องเคลื่อนที่ ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาให้ทำรากฟันเทียมก่อนการจัดฟันได้
ในกรณีที่ฟันเสียหายหรือการสูญเสียฟันและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยรากฟันเทียม ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก รากฟันเทียมเป็นการรักษาได้เลยทันที หรือในกรณีที่กำลังใช้ฟันปลอมแบบถอดได้และรู้สึกลำบากก็สามารถเข้ารับการทำฟันเทียมได้เลย
การทำรากฟันเทียมจะมีราคาแพง และไม่ครอบคลุมอยู่ในประกันสุขภาพ และสำหรับสิทธิประกันสังคมก็ไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการทำรากฟันเทียมได้
ในการเลือกเลือกคลินิกทันตกรรมสำหรับรักษารากฟันเทียม โดยเฉพาะรักษารากฟันเทียม ชลบุรี มีหลากหลายคลินิกให้เลือก แต่ที่ Dio Dental เป็นคลินิกทันตกรรมที่มีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการรักษารากฟันเทียมให้คนไข้อย่างมากมาย ด้วยเครื่องมือทันตกรรมที่มีความทันสมัย ได้มาตรฐาน
สรุป
รากฟันเทียมเป็นการรักษาฟันมีการสูญเสียไป หรือฟันที่หมดสภาพในการใช้งานตามอายุ นอกจากนี้รากฟันเทียมเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และดีที่สุดในการรักษาทันตกรรม เพื่อให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่สูญเสียฟันจากอุบัติเหตุ ผู้ที่มีฟันปลอมแบบถอดได้ และอื่น ๆ สามารถเข้ามาปลูกรากเทียมได้ โดยรากฟันเทียมจะเข้ามาทดแทนรากฟันจริง
ด้วยการรักษาทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัย รากฟันเทียม สามารถมี อายุการใช้งานอยู่ได้นาน 10-20 ปีขึ้นไป แต่จะต้องหมั่นมาเช็คสภาพกับคุณหมอเป็นประจำ และขึ้นอยู่กับการดูแลตามคำแนะนำของคุณหมอฟันที่เหมาะสมอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- อ่านบทความเพิ่มเติม: วิธีการดูแลฟันหลังจากทำรากฟันเทียม ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
- อ่านบทความเพิ่มเติม: ทำไมถึงควรใสฟันปลอม ฟันปลอมมีกี่แบบ มีข้อดีอย่างไรบ้าง ?