ความรู้ทันตกรรม

วิธีการดูแลฟันหลังจากทำรากฟันเทียม ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

11

ม.ค.

วิธีการดูแลฟันหลังจากทำรากฟันเทียม ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

การทำรากฟันเทียมถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ดีที่สุด และมีขั้นตอนในการรักษายากที่สุด กระบวนการรักษาด้วยการใส่รากฟันเทียมนั้นต้องใช้เวลานานเพื่อให้รากฟันเทียมเชื่อมติดกับกระดูกขากรรไกร ซึ่งการรักษาจะมีการผ่าตัดเพื่อฝั่งรากฟันเทียมลงไป ทันทีหลังการผ่าตัดการดูแลฟันเป็นสิ่งคนไข้จะต้องรู้ การดูแลหลังการใส่รากฟันเทียมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของขั้นตอนการรักษาของคนไข้ต่อ ๆ ไป แน่นอนว่าทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับคนไข้ทำรากฟันเทียม ดังนี้ฃ

บริการทำรางฟันเทียมที่ดีที่สุด รากเทียมดิจิทัล

เคล็ดลับการดูแลหลังการปลูกรากฟันเทียม

การดูแลหลังการปลูกรากฟันเทียม ต้องมีความระมัดระวังในการดูแลรักษาเป็นอย่างดี การฟื้นตัวของรากฟันเทียมของคนไข้จะดีหรือแย่ขึ้นอยู่กับการดูแลทั้งหมด ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เคล็ดลับการดูแลหลังการปลูกรากฟันเทียมจากผู้เชี่ยวชาญดังต่อไปนี้

การดูแลหลังการปลูกรากฟันเทียม

1. หลังการปลูกรากฟันเทียม ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อน

หลังจากผ่าตัดรากฟันเทียม คนไข้จะต้องดูแลตัวเองทันที โดยจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อน อาหารหรือเครื่องดื่มร้อนอาจทำให้การอักเสบของเนื้อเยื่อปากของคนไข้รุนแรงขึ้น เนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณที่รากฟันเทียมของคุณจะต้องใช้เวลาในการรักษาฟื้นตัวสักระยะ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรบกวนเนื้อเยื่อรวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ทำการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมด้วย ซึ่งรวมถึงการใช้ลิ้นหรือนิ้วลูบบริเวณนั้น ๆ แนวทางที่ดีที่ในการระยะคือการจิบน้ำเย็น น้ำเย็นจะช่วยบรรเทาอาการบวมและความรู้สึกไม่สบายในปากได้ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก การจิบจะช่วยลดการรบกวนบริเวณที่ทำการผ่าตัดมากยิ่งขึ้นไปอีก

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ รากฟันเทียมทั้งปากแบบ ProArch (All-on-4 and All-on-6)

2. หากรู้สึกไม่ปวดบริการรากฟันเทียมหลังผ่า ให้ประคบถุงน้ำแข็งและทานยาแก้ปวด

แน่นอนว่าหลังจากผ่าตัดใส่รากฟันเทียม แผลบริเวณนั้นจะเกิดการอักเสบขึ้นมาอย่างแน่นอน จะทำให้ปากของคนไข้กลับดูบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ อาการบวมถือเป็นเรื่องปกติของขั้นตอนการฝังรากฟันเทียม ยิ่งไปกว่านั้น อาการบวมมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงสองหรือสามวันแรกเท่านั้น วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ก็คือ การใช้น้ำแข็งและยาแก้ปวด การประคบน้ำแข็งถือเป็นส่วนสำคัญของการดูแลหลังการปลูกรากฟันเทียม การประคบน้ำแข็งจะช่วยบรรเทาและลดอาการบวม ซึ่งจะช่วยจำกัดความรู้สึกเจ็บปวดและอาการบวมได้ดี สำหรับใน 2-3 วันแรก ให้เริ่มกินยาแก้ปวดก่อนที่อาการชาจะหายไปจนหมดได้ทันที 

3. บ้วนปากด้วยน้ำเค็มอุ่น ๆ ในสัปดาห์แรก

การรักษาดูแลของคุณให้สะอาดและปราศจากแบคทีเรียถือเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นตัวและสุขอนามัยในช่องปากโดยรวมหลังจากผ่าใส่รากฟันเทียม วิธีที่ง่ายที่สุดคือน้ำเค็ม การผสมเกลือ 2-3 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 ถ้วย จะทำให้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อขั้นพื้นฐานได้ วิธีนี้จะช่วยลดการทำงานของแบคทีเรียในปากของคุณ ส่งผลให้โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลงอย่างมาก แต่อย่ากลั้วปากแรงเกินไป

4. อย่าแปรงมันทันทีหลังจากผ่าตัดใส่รากฟันเทียม

หลังจากผ่าตัดใส่รากฟันเทียมสามารถแปรงฟันได้ แต่ควรแปรงฟันอย่างระมัดระวังในช่วงเริ่มต้น หลังจากขั้นตอนการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม บาดแผลรอบ ๆ รากฟันเทียมมีแนวโน้มที่มีการอักเสบอยู่ สำหรับการแปรงฟันเป็นประจำ ผู้เชี่ยวชาญของเราแนะนำให้ใช้แปรงสีฟันหัวเล็กที่มีขนแปรงนุ่มและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ โดยทั่วไปแล้วควรรอสองสามวันควรเว้นบริการที่ผ่าตัดก่อน หากรู้สึกว่าแผลบริเวณนั้นดีขึ้นแล้ว ให้แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำวันละสองครั้งได้ตามปกติ

เรียนรู้เพิ่มเติม รากฟันเทียมทั้งปาก แบบติดแน่น

5. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

ไม่ว่าจะเป็นยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก คนไข้จะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีความอ่อนโยนต่อฟันให้มากที่สุด เมื่อคนไข้ใส่รากฟันเทียมแล้ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายต่อบริการที่ฝั่งรากฟันเทียมอย่างมากได้ โดยทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สุขอนามัยช่องปากที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น รสมิ้นต์ หรือมีแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจทำให้รู้สึกไม่สบายปากได้

6. หลีกเลี่ยงอาหารเหนียว หรือของแข็ง

การรับประทานอาหารที่แข็งและมีเหนียวอาจส่งผลให้รากฟันเทียมของคุณเสียหายได้ เช่น น้ำแข็งคาราเมล ผลไม้แห้ง ลูกอมแข็ง มันฝรั่งทอดแผ่น แครอท แอปเปิ้ล สเต็ก ขนมปังฝรั่งเศส หมากฝรั่ง เป็นต้นการหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จะทำให้รากฟันเทียมของคุณมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

7. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์

การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นความคิดที่ดีสำหรับสุขภาพโดยทั่วไปของคนไข้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้เมื่อทำรากฟันเทียม จำไว้ว่ารากฟันเทียมของคนไข้ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการรักษา ดังนั้นการสูบบุหรี่ในช่วงเวลานี้อาจส่งผลเสียอย่างยิ่ง นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ยังแสดงให้เห็นว่ากระบวนการรักษารากฟันเทียมช้าลง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ให้มากที่สุด

8. วิธีการป้องกันลิ่มเลือดและบริเวณที่ทำการผ่าตัดรากฟันเทียม

เลือดออกหลังการฝังรากเทียมเป็นเรื่องปกติและอาจคงอยู่นานหลายชั่วโมง ออกแรงกดเบา ๆ บนแก้ม ขากรรไกร และคางของคุณด้วยถุงเย็น หากคุณมีฟันปลอมแบบถอดได้ ให้วางผ้ากอซในบริเวณฟันกรามแล้วกัด หากไม่มีเลือดออก ให้ปล่อยผ้ากอซออก นอนในท่ากึ่งเอน ให้ศีรษะอยู่เหนือหัวใจ เว้นแต่คุณจะรู้สึกเป็นลม หลีกเลี่ยงการบ้วนน้ำลาย ก้มตัว ดูดหลอด และบ้วนปากเป็นเวลา 24 ชั่วโมง งดออกกำลังกายหนักหรือสูบบุหรี่เป็นเวลา 10 วัน ควรบ้วนปากต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์หากกำหนด

หลังจากใส่รากฟันเทียมไป รากฟันเทียมจะอยู่ได้นานแค่ไหน ?

จริง ๆ แล้วการรักษาทำรากฟันเทียม สามารถอยู่กับคนไข้ไปตลอดชีวิตขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของคนไข้ด้วย แม้ว่ารากฟันเทียมจะมีอายุการใช้งานนานกว่า 20 ปี แต่ก็มีโอกาสสูงที่ครอบฟันด้านบนจะเสียหาย การยึดเทียมใด ๆ จำเป็นต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง และตำแหน่งของรากฟันเทียมก็มีความสำคัญต่อการกำหนดอายุขัยของมันเช่นกัน หากวัสดุเสริมฝังอยู่ในด้านหลังของช่องปาก จะต้องกัดและเคี้ยวบ่อย ๆ ส่งผลให้ฟันสึกเร็วกว่าฟันที่ฝังไว้หน้าปากนั้นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป

สรุป

รากฟันเทียมเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทันตกรรมเพื่อความงาม และรักษาฟันที่สูญเสียไปในปัจจุบัน แม้ว่ากระบวนการนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ความต้องการก็ยังคงเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม เพราะการฝังรากฟันเทียมเป็นวิธีการแก้ปัญหาทางทันตกรรมที่ถาวร ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันในการพูดคุย เคี้ยวอาหารกลับมาเหมือนเดิมตามปกติ การปลูกรากฟันเทียมมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยการสูญเสียฟันเนื่องจากโรคปริทันต์ การบาดเจ็บ หรือฟันผุเป็นหลัก นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับฟันธรรมชาติ หากสนใจสามารถเข้ามาทำการรักษาได้ที่ Deo Dental Clinic ได้เลยทันที

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin
นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์
บทความล่าสุด
หมวดหมู่