การเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการจัดฟันแต่ละประเภท จะทำให้เราเห็นว่าควรจะจัดฟันแบบไหน หรือเหมาะสมกับการจัดฟันรูปแบบไหน เนื่องจากเงื่อนไขในชีวิตของคนเราต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของงบประมาณ เรื่องของข้อจำกัดทางด้านหน้าที่การงาน รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันร่วมด้วย ในบทความนี้จะมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการจัดฟันแต่ละประเภทให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายและเหมาะสมมากที่สุด
จัดฟันแบบโลหะ

จัดฟันแบบโลหะ (Metal Bracket) เป็นการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน จะต้องปรับเครื่องมือและเปลี่ยนสียางจัดฟันทุกเดือน เหมาะกับคนทั่วไปหรือคนที่มีงบประมาณจำกัดในการจัดฟัน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน
ข้อดี
- เป็นการจัดฟันที่แก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ
- วัสดุมีความแข็งแรงและมีแรงดึงสูง รับน้ำหนักของฟันและช่วยให้ฟันให้เรียงตัวได้ดี
- เลือกสียางจัดฟันได้ตามต้องการในทุกเดือน
ข้อเสีย
- จะต้องเสียเงินในการปรับเครื่องมือและเปลี่ยนสียางทุก ๆ เดือน
- มีโอกาสเกิดแผลจากลวดหรือเหล็กเกี่ยวกระพุ้งแก้มหรือเหงือกในช่องปากง่าย
จัดฟันแบบเซรามิก
จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces) เป็นการจัดฟันแบบที่ใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน ทำมาจากวัสดุเซรามิกสีใสและสีเหมือนฟัน เหมาะกับคนทั่วไปและคนที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันชัดเจน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน
ข้อดี
- ดูเป็นธรรมชาติ สังเกตเห็นได้ยาก
- สีสันไม่โดดเด่น เพราะเป็นวัสดุจากเซรามิกสีใสและสีเหมือนฟัน
- โอกาสที่เศษอาหารจะติดฟันน้อยกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
- อาจจะเกิดคราบบนเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย
- วัสดุเซรามิกเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย
จัดฟันแบบดามอน
จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces) เป็นการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน ใช้ Damon System แทนการใช้ยางรัดฟัน เนื่องจากมีกลไกการบานพับขนาดเล็กที่ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัว เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เวลาจัดฟันน้อยลง ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน
ข้อดี
- ใช้เวลาจัดฟันน้อยลง ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
- แรงกดบนฟันน้อยลง การเสียดสีบนฟันต่ำ และเจ็บน้อยกว่า
- ดูเเลฟันได้ง่าย ลดความเสี่ยงปัญหาฟันผุและการเกิดโรคเหงือกอักเสบ
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูง
- อาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรกได้
จัดฟันแบบใส

จัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นการจัดฟันแบบถอดเครื่องมือได้ ทำจากพลาสติกใสและบาง เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟัน หรือการทำงานที่ต้องการความเป็นทางการหรือต้องรักษาภาพลักษณ์ ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน
ข้อดี
- วัสดุพลาสติกใสและบาง ไม่สามารถสังเกตเห็นได้
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
- ทำความสะอาดง่ายกว่า เพราะสามารถอดตอนแปรงฟันและทานอาหารได้
- ไม่ส่งผลกระทบการออกเสียง
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูงกว่าการจัดฟันทุกรูปแบบ
- อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาการสบฟันอย่างรุนแรง
- จำเป็นต้องใส่ตลอดทั้งวัน อย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน
(เรียนรู้เพิ่มเติม: จัดฟันใส ราคาเท่าไหร่ แพงไหม ดีกว่าจัดฟันแบบอื่นอย่างไร)
บทสรุป
การจัดฟันแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ก็ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัยมากที่สุด หากรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยตรง และใช้อุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามกับทางคลินิกทันตกรรมก่อนได้เลย เพื่อให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
Dio Dental มีเครื่องมือทันกรรมและเครื่องมือในการจัดฟันที่ได้มาตรฐานและมีความทันสมัย นอกจากนี้เรายังมีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการจัดฟันมาอย่างมากมาย