ความรู้ทันตกรรม

เปรียบเทียบกันชัด ๆ ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟันแต่ละประเภท

22

ก.ค.

เปรียบเทียบกันชัด ๆ ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟันแต่ละประเภท
Table of Contents

การเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการจัดฟันแต่ละประเภท จะทำให้เราเห็นว่าควรจะจัดฟันแบบไหน หรือเหมาะสมกับการจัดฟันรูปแบบไหน เนื่องจากเงื่อนไขในชีวิตของคนเราต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของงบประมาณ เรื่องของข้อจำกัดทางด้านหน้าที่การงาน รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันร่วมด้วย ในบทความนี้จะมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการจัดฟันแต่ละประเภทให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายและเหมาะสมมากที่สุด

จัดฟันแบบโลหะ

จัดฟันแบบโลหะ

จัดฟันแบบโลหะ (Metal Bracket) เป็นการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน จะต้องปรับเครื่องมือและเปลี่ยนสียางจัดฟันทุกเดือน เหมาะกับคนทั่วไปหรือคนที่มีงบประมาณจำกัดในการจัดฟัน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน

ข้อดี

  • เป็นการจัดฟันที่แก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ
  • วัสดุมีความแข็งแรงและมีแรงดึงสูง รับน้ำหนักของฟันและช่วยให้ฟันให้เรียงตัวได้ดี
  • เลือกสียางจัดฟันได้ตามต้องการในทุกเดือน

ข้อเสีย

  • จะต้องเสียเงินในการปรับเครื่องมือและเปลี่ยนสียางทุก ๆ เดือน
  • มีโอกาสเกิดแผลจากลวดหรือเหล็กเกี่ยวกระพุ้งแก้มหรือเหงือกในช่องปากง่าย

จัดฟันแบบเซรามิก

จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces) เป็นการจัดฟันแบบที่ใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน ทำมาจากวัสดุเซรามิกสีใสและสีเหมือนฟัน เหมาะกับคนทั่วไปและคนที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันชัดเจน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน

ข้อดี

  • ดูเป็นธรรมชาติ สังเกตเห็นได้ยาก 
  • สีสันไม่โดดเด่น เพราะเป็นวัสดุจากเซรามิกสีใสและสีเหมือนฟัน
  • โอกาสที่เศษอาหารจะติดฟันน้อยกว่าการจัดฟันแบบโลหะ

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
  • อาจจะเกิดคราบบนเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย
  • วัสดุเซรามิกเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย

จัดฟันแบบดามอน 

จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces) เป็นการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน ใช้ Damon System แทนการใช้ยางรัดฟัน เนื่องจากมีกลไกการบานพับขนาดเล็กที่ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัว เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เวลาจัดฟันน้อยลง ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน

ข้อดี

  • ใช้เวลาจัดฟันน้อยลง ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
  • แรงกดบนฟันน้อยลง การเสียดสีบนฟันต่ำ และเจ็บน้อยกว่า 
  • ดูเเลฟันได้ง่าย ลดความเสี่ยงปัญหาฟันผุและการเกิดโรคเหงือกอักเสบ

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูง
  • อาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรกได้

จัดฟันแบบใส

จัดฟันแบบใส

จัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นการจัดฟันแบบถอดเครื่องมือได้ ทำจากพลาสติกใสและบาง เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟัน หรือการทำงานที่ต้องการความเป็นทางการหรือต้องรักษาภาพลักษณ์ ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน

ข้อดี

  • วัสดุพลาสติกใสและบาง ไม่สามารถสังเกตเห็นได้
  • ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
  • ทำความสะอาดง่ายกว่า เพราะสามารถอดตอนแปรงฟันและทานอาหารได้
  • ไม่ส่งผลกระทบการออกเสียง

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูงกว่าการจัดฟันทุกรูปแบบ
  • อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาการสบฟันอย่างรุนแรง
  • จำเป็นต้องใส่ตลอดทั้งวัน อย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน

(เรียนรู้เพิ่มเติม: จัดฟันใส ราคาเท่าไหร่ แพงไหม ดีกว่าจัดฟันแบบอื่นอย่างไร)

บทสรุป

การจัดฟันแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ก็ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัยมากที่สุด หากรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยตรง และใช้อุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามกับทางคลินิกทันตกรรมก่อนได้เลย เพื่อให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

Dio Dental มีเครื่องมือทันกรรมและเครื่องมือในการจัดฟันที่ได้มาตรฐานและมีความทันสมัย นอกจากนี้เรายังมีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการจัดฟันมาอย่างมากมาย

บทความเพิ่มเติม:

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin
นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์
บทความล่าสุด
Follow Us