ขั้นตอนการจัดฟันมีอะไรบ้างนั้น มักจะเป็นคำถามสำหรับคนที่กำลังจะจัดฟัน เพราะการจัดฟันเป็นวิธีการรักษาและแก้ปัญหาฟันรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มีความสวยงามและสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับฟันได้อย่างหลากหลาย นอกจากจะต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดฟันและคลินิกทันตกรรมให้ดีแล้ว การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน และการดูแลหลังการจัดฟันก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟันเป็นวิธีการรักษาฟัน และแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อให้ฟันเรียงตัวอย่างสวยงาม และสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ฟันแบบไหนควรจัดฟัน
ฟันเก ฟันห่าง ฟันยื่น
หรือฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม เพราะจะส่งผลให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
ฟันซ้อนเก
เพราะจะทำความสะอาดหรือแปรงฟันได้ยาก และอาจเกิดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบตามมาได้
ขากรรไกรผิดรูป
หรือฟันเท ซึ่งอาจจะมาจากความผิดปกติบางอย่าง เช่น การดูดนิ้ว หรือการกลืนที่ผิดปกติ เป็นต้น
ฟันล้มเอียง
หรือห่างจากกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากการถอนฟัน และไม่ได้ใส่ฟันปลอมนานเกินไป
ข้อดีของการจัดฟัน
- การจัดฟันจะช่วยเสริมความมั่นใจได้ เพราะปัญหาฟันในรูปแบบต่างๆ อาจจะส่งผลต่อความมั่นใจในการยิ้ม หรือพูดคุย
- แก้ปัญหาฟันได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฟันเก ฟันห่าง ฟันล้มเอียง หรือฟันที่มีการเรียงตัวไม่สวยงาม
- ช่วยให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น และสามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มวินัยในตัวเองในการดูแลฟัน
การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน
เนื่องจากการจัดฟันจะใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน จึงควรจะถามตัวเองให้แน่ชัดว่าพร้อมที่จะจัดฟันจริงหรือไม่ เมื่อแน่ใจแล้วว่าจัดฟันก็ควรจะเลือกคลินิกทันตกรรมที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เพื่อเข้ารับคำปรึกษาและคำแนะนำจากทันตแพทย์สำหรับการจัดฟัน
ซึ่งการจัดฟันจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ ที่จะมีขั้นตอนการจัดฟันที่ต่างกัน คือการจัดฟันแบบติดเครื่องมือและการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ และสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
วิธีการและขั้นตอนการจัดฟัน
1. ตรวจสุขภาพในช่องปาก
เมื่อทำการปรึกษาทันตแพทย์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนแรกของการจัดฟันคือการตรวจสุขภาพช่องปาก จากนั้นจะพิมพ์ปากและทำแบบจำลองฟัน เพื่อดูโครงสร้างฟันและการสบของฟัน แล้วจึงจะทำการเอกซเรย์ฟัน เพื่อดูลักษณะของกระดูกขากรรไกร
2. เคลียร์ช่องปาก
ทันตแพทย์จะทำการเคลียร์ปัญหาสุขภาพภายในช่องปากให้เรียบร้อยตามความเหมาะสม และปัญหาสุขภาพช่องปากที่มี เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน หรือถอนฟันคุด เป็นต้น
3. ติดเครื่องมือจัดฟัน
ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดฟันที่คนไข้ได้เลือกไว้ โดยจะมี 2 รูปแบบ คือ จัดฟันแบบติดเครื่องมือและไม่ติดเครื่องมือ
- จัดฟันแบบติดเครื่องมือ โดยทันตแพทย์จะติดเครื่องมือบนผิวฟัน และจะมีการนัดมาปรับเครื่องมือตามประเภทของการจัดฟัน
- จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ โดยทันตแพทย์จะส่งแบบพิมพ์ฟัน และข้อมูลของคนไข้ไปผลิตเครื่องมือจัดฟันใส และนัดคนไข้เข้ามารับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส
4. รับคำแนะนำหลังจัดฟันจากทันตแพทย์
แน่นอนว่าการจัดฟันจะต้องได้รับการดูแลโดยเฉพาะเป็นพิเศษ จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการจัดฟัน
วิธีการดูแลหลังจัดฟัน
หลังจากการจัดฟัน จะต้องดูแลและรักษาความสะอาดของช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการแปรงฟันให้ถูกวิธี และใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ
ในส่วนของอาหารก็จะควรจะกินอาหารที่เคี้ยวง่ายหรืออาหารอ่อนๆ หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่แข็งและเหนียว เพื่อลดอาการปวดฟันและไม่ทำให้เครื่องมือเกิดความเสียหาย หากลวดทิ่มหรือรู้สึกระคายเคือง สามารถใช้ขี้ผึ้งในการปิดทับบริเวณที่ระคายเคืองได้ หรือหากมีอาการผิดปกติใดๆ ก็ควรที่จะเข้าพบทันตแพทย์ในทันที
บทสรุป
การจัดฟันได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพราะเป็นวิธีการรักษาปัญหาฟันได้อย่างหลากหลาย และมีความสวยงาม และสำหรับใครที่ต้องการจัดฟันเป็นครั้งแรก ควรจะศึกษาข้อมูล รายละเอียด ขั้นตอนการจัดฟัน และวิธีการดูแลต่างๆ ให้ถี่ถ้วนก่อน และควรจะต้องเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อการจัดฟันที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สำหรับใครที่ต้องการจัดฟันในรูปแบบต่างๆ สามารถเข้ามาจัดฟันหรือสอบถามเกี่ยวกับบริการทันตกรรมต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Dio Dental Clinic