ฟันไม่สวย รับประทานอาหารไม่เต็มประสิทธิภาพ แก้ปัญหาได้ด้วยการจัดฟันเหล็ก (Matal Braces) ทันตกรรมยอดนิยมในปัจจุบันที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพช่องปากและฟันให้เหมาะสมมากขึ้น เพื่อการเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งการจัดฟันเหล็กยังสามารถเสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีได้อีกด้วย แต่กระนั้นหลายคนยังไม่ทราบเกี่ยวกับการจัดฟันที่มากเพียงพอ บทความนี้มีคำตอบ เพราะเราจะพาท่านไปทำความรู้จักกับการจัดฟันให้มากขึ้นว่าจัดฟันแบบโลหะราคาเท่าไหร่ และการจัดฟันมีกี่แบบ ลวดจัดฟันแบบต่าง ๆ เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง
จัดฟันเหล็ก คืออะไร? ทำไมต้องจัดฟัน?
จัดฟันเหล็ก หรือการจัดฟันแบบ Matal Bracket เป็นทันตกรรมจัดฟัน (Orthodontics) ประเภทหนึ่งที่มีการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือจัดฟันที่ทำมาจากวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ติดแน่นบนผิวฟัน และใส่ลวดผ่านร่อง Bracket จัดฟัน ก่อนจะใช้ยางโอริง (O-Ring) ที่มีสีสันสดใสต่าง ๆ รัดเครื่องมือจัดฟัน โดยจุดประสงค์ของการจัดฟันเหล็กคือ การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเรียงตัวหรืออยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดฟันซ้อน ฟันเก หรือปัญหาสบฟันไม่พอ ทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่มีประสิทธิภาพ
ข้อดีของการจัดฟันเหล็กที่มากกว่าความสวยงาม
- แก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันยื่น และฟันห่างให้เรียงตัวเป็นระเบียบ
- แก้ไขปัญหากลิ่นปากที่เกิดจากฟันเรียงตัวในตำแหน่งไม่เหมาะสม
- ปรับโครงหน้าให้สมส่วนมากขึ้น เพราะปกติการจัดฟันต้องมีการถอนฟันด้วย
- แก้ไขปัญหาการสบฟันไม่เท่ากัน เพื่อให้เคี้ยวอาหารได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ลดความเสี่ยงการเกิดฟันผุ
- เสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี พร้อมความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น
ขั้นตอนการจัดฟันเหล็กมีอะไรบ้าง
กระบวนการจัดฟันเหล็กจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคลินิกทันตกรรม ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์และความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย แต่กระนั้น ขั้นตอนการจัดฟันหลัก ๆ ยังเหมือน โดยประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
การปรึกษาทันตแพทย์และการวางแผนการรักษา
ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบสุขภาพช่องปากของคนไข้ โดยการเอกซเรย์ (X-Ray) โครงสร้างการเรียงตัวของฟันที่มีปัญหา เพื่อวางแผนและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนในการจัดฟัน จากนั้นจะทำการพิมพ์ฟันเพื่อผลิตอุปกรณ์จัดฟันที่เข้ากับคนไข้แต่ละคน
ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องมือเหล็ก
ก่อนเริ่มติดตั้งเครื่องมือเหล็กจัดฟัน ทันตแพทย์จะทำความสะอาดช่องปากและผิวฟันของคนไข้ให้เหมาะสมกับการจัดฟัน จากนั้นก็ทากาวทันตกรรมสำหรับติด Bracket จัดฟันลงเนื้อฟันแต่ละซี่ หลังจากนั้นฉายแสงลงไปในจุดจัดฟัน เพื่อให้กาวทันตกรรมกับ Bracket จัดฟันติดกันอย่างมั่นคง ต่อมาทันตแพทย์จะร้อยลวดโลหะเชื่อมระหว่าง Bracket จัดฟัน และสุดท้ายติดตัวยึดลงในร่องระหว่าง Bracket กับลวดจัดฟันโลหะทีละชิ้นก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้งเครื่องมือเหล็กจัดฟัน
ระยะเวลาในการจัดฟันเหล็กและการติดตามผล
หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว ทันตแพทย์จะนัดหมายคนไข้ให้เข้ามาตรวจสอบสภาพช่องปาก รวมถึงปรับเครื่องมือจัดฟัน โดยปกติแล้วทันตแพทย์จะนัดหมายทุก ๆ 1 เดือน เพื่อประเมินผลการรักษา แต่กระนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์ รวมถึงตามแผนการรักษา หากในกรณีที่ไม่มีอุปสรรคหรือปัญหาแทรกซ้อนมากนัก อาจจะนัดทุก ๆ 2 – 3 เดือน หรือในบางกรณีทันตแพทย์อาจจะนัดทุก 6 เดือน
การดูแลรักษาฟันระหว่างการจัดฟันเหล็ก
หากพูดกันตามตรงแล้ว การจัดฟันเหล็กมีวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันที่ค่อนข้างยากและซับซ้อนมากกว่าการจัดฟันธรรมดา เช่น จัดฟันใส หรือจัดฟันดามอน เป็นต้น เนื่องจากเครื่องมือเหล็กดัดฟันมีการยึดโยงฟันทุกซี่อย่างแน่นหนา จึงเป็นเหตุผลว่าหลังจากติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะแล้ว ทันตแพทย์แนะนำให้ดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด โดยประกอบไปด้วย
วิธีการทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันเหล็ก
หลังติดเครื่องมือจัดฟันโลหะเรียบร้อยแล้ว ควรทำความสะอาดฟันและช่องปากให้ถูกวิธี ด้วยความนุ่มนวล ไม่แปรงด้วยความรุนแรง เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันเหล็กหลุด หรือเกิดอาการบาดเจ็บได้ โดยการทำความสะอาดควรทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเป็นประจำ หรือสามารถแปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงและสิ่งที่ควรทำเพื่อรักษาฟันให้แข็งแรง
เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการบาดเจ็บและเครื่องมือจัดฟันเหล็กหลุด ควรเลี่ยงหรืองดรับประทานอาหารที่มีความแข็งและเหนียว โดยรับประทานอาหารอ่อนอย่างโจ๊กและข้าวต้มแทน ซึ่งบางกรณี ควรเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีแก๊สอยู่ในช่วงแรก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของทันตแพทย์จากการประเมินสุขภาพช่องปากของคนไข้เรียบร้อย
การใช้ไหมขัดฟันและการดูแลสุขภาพช่องปาก
ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่แนะนำคนไข้ให้ใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) ควบคู่ไปกับการแปรงฟันปกติ เพื่อทำความสะอาดซอกฟันหรือในจุดที่อาจจะมีเศษอาหารหลงเหลือจากการแปรงฟันอีก นอกจากนี้น้ำยาบ้วนปากก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับการดูแลช่องปากให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันเหล็กแพงไหม?
ค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดฟันแบบโลหะของแต่ละคลินิกทันตกรรมไม่เท่ากัน ซึ่งก่อนตัดสินใจควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อสอบถามรายละเอียดสำคัญทั้งหมด รวมทั้งค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ เพื่อวางแผนการรักษาและการเงินให้เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว การจัดฟันเหล็กมีราคาที่ถูกที่สุดในประเภทการจัดฟัน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายราว ๆ 40,000 – 50,000 บาท กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากและฟันว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน
จัดฟันเหล็กที่ไหนดีที่มีคุณภาพและเหมาะสมที่สุด
หากใครกำลังมองหาคลินิกจัดฟันเหล็ก เราขอแนะนำ DIODENTAL คลินิกทันตกรรมที่ตอบโจทย์มากที่สุด ไม่เฉพาะการจัดฟันโลหะเท่านั้น แต่ยังมีการจัดฟันธรรมดาให้บริการด้วย รวมถึงบริการทันตกรรมอื่น ๆ ครบทุกสาขาทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นฟอกสีฟัน วีเนียร์ หรือรากฟันเทียม เป็นต้น โดยดำเนินการรักษาด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมประสบการณ์มากมาย
ควบคู่กับอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการแพทย์ที่นำมาใช้ร่วมด้วย ทั้ง CT-Scan หรือ X-Ray เป็นต้น เรียกได้เลยว่าทุกปัญหาช่องปาก ครบ จบที่นี่ที่เดียว! สำหรับใครที่สนใจจะทำทันตกรรมกับทาง DIODENTAL สามารถเข้าไปติดต่อไปที่เว็บไซต์ของทางคลินิก หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้เบอร์ 083-994-2467
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการจัดฟันเหล็ก
การจัดฟันเหล็กเหมาะกับใคร
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุก็สามารถจัดฟันเหล็กได้ ซึ่งเป็นทันตกรรมสำหรับการแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นระเบียบ เพื่อให้สามารถใช้งานฟันในการบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ข้อควรระวังคือ หากเป็นเด็ก ควรเป็นเด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 11 – 13 ปี หรือหลังจากมีฟันแท้ขึ้นครบแล้วจะเหมาะสมกว่า
การจัดฟันเหล็กเจ็บไหม
เหล็กดัดฟันจะกดแรงดัดฟันและกดบริเวณหลอดเลือด ส่งผลให้คนไข้รู้สึกเจ็บปวด อาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน ซึ่งบางคนอาจจะเจ็บไม่มาก แต่กลับกัน บางคนอาจจะปวดจนทนไม่ไหวก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดยอาการเจ็บปวดจะค่อย ๆ ทุเลาลงหลังจากผ่านไป 3 – 5 วัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทันตแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวด หรือยาพาราให้แก่คนไข้ เพื่อลดอาการเจ็บปวด
การจัดฟันเหล็กใช้เวลานานแค่ไหน?
ระยะเวลาที่ใช้สำหรับการจัดฟันโลหะของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งด้านความรุนแรงของปัญหาช่องปาก ด้านการดูแลรักษา และด้านโครงสร้างฟัน เป็นต้น ซึ่งปกติแล้วการจัดฟันใช้ระยะเวลาเริ่มต้นที่ 1 ปี ไปจนถึง 3 – 4 ปี แต่ในบางเคสอาจจะใช้เวลานานกว่า 5 ปีก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
จะต้องไปพบทันตแพทย์บ่อยแค่ไหนระหว่างการจัดฟัน?
โดยปกติแล้วทันตแพทย์จะนัดคนไข้ทุก ๆ 1 เดือน เพื่อติดตามผลการรักษาและปรับเครื่องมือจัดฟันเหล็กให้เหมาะสมกับการเคลื่อนฟัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาที่ทันตแพทย์วางไว้ให้แก่คนไข้แต่ละราย หากในกรณีรุนแรงอาจจะต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยมากขึ้น รวมไปถึงกรณีที่เหล็กจัดฟันหลุดหรือเกิดอาการบาดเจ็บ ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ทันที
การจัดฟันเหล็กมีผลกระทบต่อการพูดไหม?
ช่วงแรงคนไข้จะมีความสามารถในการพูดน้อยลง ซึ่งเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ อาหารบาดเจ็บ ชาหลังจากการติดเหล็กดัดฟัน และสาเหตุจากความไม่เคยชินกับการที่มีเครื่องมือแปลกปลอมมาอยู่ในร่างกาย แต่หลังจากผ่านเวลาจนร่างกายเคยชินแล้ว ทักษะพูดก็ใช้ได้เหมือนกัน
สรุป จัดฟันเหล็ก ทันตกรรมฟันเหล็ก
เทรนด์ฟันเหล็กได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันยื่น หรือปัญหาเกี่ยวกับฟันอื่น ๆ ทั้งปัญหาการสบของฟัน หรือปัญหา เป็นต้น เพื่อให้คนไข้สามารถกลับมามั่นใจในรอยยิ้มของตัวเองได้อีกครั้ง รวมไปถึงการฟื้นฟูประสิทธิภาพการใช้งานของฟัน อย่างไรก็ตาม ก่อนจัดฟันเหล็ก ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาหาคำแนะนำก่อน เพื่อหาแนวทางและวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด
