การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เหมาะกับใคร? จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ฟันถึงจะมีการเคลื่อนตัวและเข้าที่เป็นระเบียบสวยงาม เชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการจัดฟันใสกันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นรูปแบบการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มดารา นักแสดง หรือผู้มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง ๆ เพราะเป็นเครื่องมือจัดฟันที่มีความใส สังเกตเห็นได้ยาก และในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมในหลากหลายกลุ่มมากขึ้น
การจัดฟันแบบใส คืออะไร
การจัดฟันแบบใส (Invisalign) คือรูปแบบการจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ ทำมาจากพลาสติกใสและถูกออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ฟันมีการเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ต้องการ
โดยปติแล้วจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาฟัน ซึ่งในบางกรณีที่มีปัญหาฟันไม่หนักมาก หรือไม่ซับซ้อนมาก อาจจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือน
รูปแบบของการจัดฟันแบบใส
- การจัดฟันใสที่ไม่ต้องถอนฟัน สำหรับกรณีที่มีปัญหาฟันซ้อนเกเล็กน้อย หรือเคยจัดฟันรูปแบบอื่นมาก่อนแล้ว โดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการจัดฟันไม่เกิน 1 ปี
- การจัดฟันใสที่ต้องถอนฟัน สำหรับกรณีที่มีปัญหาฟันซ้อนเกมาก หรือรูปปากยื่น จึงต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย โดยปกติแล้วอาจจะใช้เวลาในการจัดฟันถึง 2 ปี
ประเภทของการจัดฟันใสที่ได้รับความนิยม
Invisalign Full
สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติมาก
Invisalign Express
สำหรับผู้ที่มีปัญหาการเรียงตัวของฟันและฟันซ้อนเกเล็กน้อย
Invisalign Lite
สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติน้อย
Invisalign Go
สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านการบดเคี้ยวหรือการสบฟันในฟันหลังหรือฟันกราม และผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง ฟันซ้อนเกเล็กน้อย
(อ่านบทความเพิ่มเติม: ประเภทการจัดฟันใส Invisalign มีกี่ประเภท?)
การจัดฟันแบบใสเหมาะกับใคร
การจัดฟันใส สามารถรักษาและแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลายและมีความครอบคลุม จึงเป็นการจัดฟันที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันต่าง ๆ ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนฟันเก
- ผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง
- ผู้ที่มีปัญหาการสบฟัน ไม่ว่าจะเป็น ฟันสบลึกหรือฟันสบเปิด
- ผู้ที่มีปัญหาขากรรไกรล่างยื่นร่วมด้วย
- ผู้ที่มีปัญหาฟันล้ม จากการไม่ใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟัน
- ผู้ที่ต้องการทำวีเนียร์หรือตกแต่งเหงือก แต่จะต้องอาศัยการจัดฟันร่วมด้วย
- ผู้ที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย
ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
ข้อดีของการจัดฟันแบบใส
- เป็นการจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือออก เพื่อทานอาหารหรือแปรงฟันได้
- ไม่ต้องคอยกังวลว่าเศษอาหารจะติดที่เครื่องมือจัดฟัน
- ไม่สามารถสังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย เพราะเป็นพลาสติกที่มีความใส
- ไม่มีบาดแผลในช่องปากที่เกิดจากเครื่องมือจัดฟัน
- สามารถทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้สะดวกกว่า
- ไม่ส่งผลต่อการออกเสียงและการพูดคุย
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
- ราคาและค่าใช้จ่ายแพงกว่าการจัดฟันรูปแบบอื่น
- ต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟัน เพราะต้องใส่อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเกอย่างรุนแรง
บทสรุป
การจัดฟันใส เป็นการจัดฟันที่สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างครอบคลุมไม่ต่างจากการจัดฟันรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นเครื่องมือจัดฟันรูปแบบใหม่ที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ ไม่ว่าจะทานอาหารหรือแปรงฟันก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากกว่า และเป็นการจัดฟันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย
Dio Dental คลินิกทันตกรรมที่มีบริการจัดฟันแบบใส โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการจัดฟัน พร้อมด้วยเครื่องการจัดฟัน ทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน