ความรู้ทันตกรรม

ไขข้อข้องใจ จัดฟันแบบใส Invisalign เหมาะกับใคร

02

ก.ย.

ไขข้อข้องใจ จัดฟันแบบใส Invisalign เหมาะกับใคร
Table of Contents

การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เหมาะกับใคร? จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ฟันถึงจะมีการเคลื่อนตัวและเข้าที่เป็นระเบียบสวยงาม เชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการจัดฟันใสกันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นรูปแบบการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มดารา นักแสดง หรือผู้มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง ๆ เพราะเป็นเครื่องมือจัดฟันที่มีความใส สังเกตเห็นได้ยาก และในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมในหลากหลายกลุ่มมากขึ้น

การจัดฟันแบบใส คืออะไร

การจัดฟันแบบใส คืออะไร

การจัดฟันแบบใส (Invisalign) คือรูปแบบการจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ ทำมาจากพลาสติกใสและถูกออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ฟันมีการเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ต้องการ

โดยปติแล้วจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาฟัน ซึ่งในบางกรณีที่มีปัญหาฟันไม่หนักมาก หรือไม่ซับซ้อนมาก อาจจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือน

รูปแบบของการจัดฟันแบบใส

  • การจัดฟันใสที่ไม่ต้องถอนฟัน สำหรับกรณีที่มีปัญหาฟันซ้อนเกเล็กน้อย หรือเคยจัดฟันรูปแบบอื่นมาก่อนแล้ว โดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการจัดฟันไม่เกิน 1 ปี
  • การจัดฟันใสที่ต้องถอนฟัน สำหรับกรณีที่มีปัญหาฟันซ้อนเกมาก หรือรูปปากยื่น จึงต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย โดยปกติแล้วอาจจะใช้เวลาในการจัดฟันถึง 2 ปี

ประเภทของการจัดฟันใสที่ได้รับความนิยม

ประเภทของการจัดฟันใสที่ได้รับความนิยม

Invisalign Full

สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติมาก

Invisalign Express

สำหรับผู้ที่มีปัญหาการเรียงตัวของฟันและฟันซ้อนเกเล็กน้อย 

Invisalign Lite

สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติน้อย

Invisalign Go

สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านการบดเคี้ยวหรือการสบฟันในฟันหลังหรือฟันกราม และผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง ฟันซ้อนเกเล็กน้อย

(อ่านบทความเพิ่มเติม: ประเภทการจัดฟันใส Invisalign มีกี่ประเภท?)

การจัดฟันแบบใสเหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบใสเหมาะกับใคร

การจัดฟันใส สามารถรักษาและแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลายและมีความครอบคลุม จึงเป็นการจัดฟันที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันต่าง ๆ ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนฟันเก
  • ผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง
  • ผู้ที่มีปัญหาการสบฟัน ไม่ว่าจะเป็น ฟันสบลึกหรือฟันสบเปิด
  • ผู้ที่มีปัญหาขากรรไกรล่างยื่นร่วมด้วย
  • ผู้ที่มีปัญหาฟันล้ม จากการไม่ใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟัน
  • ผู้ที่ต้องการทำวีเนียร์หรือตกแต่งเหงือก แต่จะต้องอาศัยการจัดฟันร่วมด้วย
  • ผู้ที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย

ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส

  • เป็นการจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือออก เพื่อทานอาหารหรือแปรงฟันได้
  • ไม่ต้องคอยกังวลว่าเศษอาหารจะติดที่เครื่องมือจัดฟัน
  • ไม่สามารถสังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย เพราะเป็นพลาสติกที่มีความใส
  • ไม่มีบาดแผลในช่องปากที่เกิดจากเครื่องมือจัดฟัน
  • สามารถทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้สะดวกกว่า
  • ไม่ส่งผลต่อการออกเสียงและการพูดคุย
  • ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย

ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

  • ราคาและค่าใช้จ่ายแพงกว่าการจัดฟันรูปแบบอื่น
  • ต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟัน เพราะต้องใส่อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเกอย่างรุนแรง

บทสรุป

การจัดฟันใส เป็นการจัดฟันที่สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างครอบคลุมไม่ต่างจากการจัดฟันรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นเครื่องมือจัดฟันรูปแบบใหม่ที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ ไม่ว่าจะทานอาหารหรือแปรงฟันก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากกว่า และเป็นการจัดฟันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันได้ง่าย

Dio Dental คลินิกทันตกรรมที่มีบริการจัดฟันแบบใส โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการจัดฟัน พร้อมด้วยเครื่องการจัดฟัน ทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน

บทความเพิ่มเติม

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin