ความรู้ทันตกรรม

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไร

10

พ.ย.

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไร
Table of Contents

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป คือ ฟันเทียมทั้งระบบที่ใช้ทดแทนฟันที่หายไป การฝังรากฟันเทียมเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดที่มีการฝั่งรากฟันเทียมลงไปใต้ชั้นเหงือก เพื่อรากฟันมีการเชื่อมติดกับขากรรไกร ทันตแพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องเป็นทันตแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไข้ที่กำลังพิจารณาการผ่าตัดฝั่งรากฟันเทียม จะต้องเลือกใช้บริการกับคลินิกทันตกรรมที่เชื่อถือได้

คลินิกทันตกรรม Dio Dental มีให้บริการทันตกรรมใส่รากฟันเทียมทุกรูปแบบครบวงจร รักษาด้วยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมมอบประสบการณ์ทางทันตกรรมดีที่สุดให้กับคนไข้ทุกคน  

ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายในการรักษาฟันที่สูญเสียไป แต่ในปัจจุบันวิธีที่ดีที่สุดคือการปลูกรากฟันเทียม ซึ่งเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคนไข้หลาย ๆ คนที่อยากกลับมาใช้งานได้อย่าง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียมแบบทั่วไปว่ามีวิธีการรักษาอย่างไร และใครบ้างที่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป คืออะไร ?

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป คือ รากฟันเทียมที่ทำจากแท่งโลหะขนาดเล็กจากไทเทเนียมไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายที่ใช้ทดแทนรากฟันที่หายไป ทำหน้าที่เป็นจุดยึดสำหรับฟันทดแทนและรวมเข้ากับกระดูกขากรรไกรเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง โดยจะเป็นการการผ่าตัดฝั่งรากฟันเทียมลงไปใต้เหงือกเพื่อให้เชื่อมกับกระดูกขากรรไกร

รากฟัมเทียมที่ฝั่งลงไปนั้นจะหลอมรวมกับโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่มีอยู่ของคนไข้เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เกิดระบบรองรับตามธรรมชาติที่แข็งแกร่งกว่าการทำฟันปลอมหรือสะพานฟันชั่วคราว รากฟันเทียมไทเทเนียมซึ่งมีความแข็งแรงพอที่จะทนต่อแรงเคี้ยวและใช้งานได้นานไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับฟันจริง ๆ และยังมีวิธีการดูแลรักษาที่เหมือนกับฟันธรรมชาติได้เลย

ในการรักษารากฟันเทียมแบบทั่วไปสามารถเปลี่ยนฟันซี่เดียวหรือหลายซี่ได้หากมีปัญหาในการเคี้ยว พูด หรือหายใจเนื่องจากฟันหายไป การบูรณะฟันที่ทนทานนี้ทำงานเหมือนกับฟันธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมแบบเดิม คนไข้ที่ใส่รากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องถอดออกตอนกลางคืน หรือห้ามรับประทานอาหารที่จะสร้างความเจ็บปวดในการเคี้ยวได้

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไร

บทความที่เกี่ยวข้อง กระบวนการรักษารากฟันเทียม และ บริการรักษารากฟันเทียมดิจิทัล 

ขั้นตอนการรักษารากฟันแบบทั่วไป

สำหรับการขั้นตอนในการรักษารากฟันแบบทั่วไปจะใช้เวลาในการรักษาที่กินเวลานานเพื่อให้รากฟันเทียมทำการเชื่อมติดกับขากรรไกร คนไข้อาจจะต้องเข้ามาพบทันตแพทย์ตามที่นัดหมายทุกครั้ง โดยจะมีขั้นตอนในการรักษาดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 เข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากทันตแพทย์รากฟันเทียม

ทันตแพทย์รากฟันเทียมจะทำการวินิจฉัยคนไข้ก่อนที่จะทำการรักษาด้วยรากฟันเทียม และทำการสแกน X-ray/CT เพื่อวางแผนการรักษาที่ถูกต้องและกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด หากคนไข้สูญเสียฟันไปไม่นานและมีกระดูกเพียงพอ สามารถทำการผ่าตัดรากฟันเทียมได้ทันที แต่หากบริเวณที่จะทำรากฟันเทียมมีกระดูกไม่เพียงพอ ทันตแพทย์จะแนะนำให้ปลูกถ่ายกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม 

ทันตแพทย์รากฟันเทียมจะใส่รากเทียมลงในกระดูกรองรับของฟัน และเย็บแผนทันตแพทย์จะนัดตรวจบาดแผล และจะตัดไหมประมาณ 7 – 14 วันหลังการผ่าตัด ในการรอให้รากฟันเทียมกับกระดูกขากรรไกรเชื่อมติดกันจะใช้เวลา 2 – 6 เดือน ซึ่งทันตแพทย์จะทำการนัดหมายเพื่อเข้ามาตรวจสอบอยู่เรื่อย ๆ 

ขั้นตอนที่ 2 การพิมพ์ปาก (Impression)

เมื่อรากฟันเทียมที่ใส่ลงไปมีการเชื่อมติดกับกระดูกดีแล้ว ทันตแพทย์จะใส่แกนทันตกรรมจำลอง (coping) เพื่อสร้างรอยฟันของคนไข้ การพิมพ์จะถูกส่งไปที่ห้องปฏิบัติการทันตกรรมเพื่อทำครอบฟัน/สะพานฟัน

ระยะเวลารอห้องปฏิบัติการทันตกรรมผลิตชิ้นงานประมาณ 5-7 วัน โดยมีการใช้เทคโนโลยี CAD/CAM ในการทำครอบฟันเป็นตัวอย่าง อาจใช้เวลาเพียง 1 วันในการผลิตชิ้นนี้

ขั้นตอนที่ 3 การใส่ครอบฟัน

ทันตแพทย์จะวางแกนกลาง (abutment) ตัวจริง และวางครอบฟัน/สะพานฟันจริง ปรับการกัดของคุณสำหรับการกัดและเคี้ยวตามปกติ ทันตแพทย์จะนัดตรวจสุขภาพทุก ๆ 6 เดือน หรือตามดุลยพินิจของทันตแพทย์ ซึ่งหลังจากนี้คนไข้สามารถกลับมาใช้งานฟันได้ตามปกติเหมือนกับฟันธรรมชาติจริง ๆ 

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไร

ใครบ้างสามารถทำการรักกษาด้วยการใส่รากฟันเทียมแบบทั่วไปได้

รากฟันเทียมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใหญ่ที่มีการ การถอนฟัน สูญเสียฟันจากอุบัติเหตุ โรคเกี่ยวกับฟันที่ทำให้ต้องถอนฟัน สามารถเข้ารับการรักษาด้วยการปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไปได้ ไม่มีการจำกัดอายุในการรักษาตราบใดที่สุขภาพช่องปากของคนไข้แข็งแรง ปราศจากโรคเหงือกหรือฟันผุ จะต้องแก้ไขปัญหาฟันรอบ ๆ ก่อนจึงจะสามารถรักษาด้วยการฝั่งรากฟันเทียมได้

นอกจากนี้ มวลกระดูกในขากรรไกรที่สมบูรณ์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาฝั่งรากเทียมแบบทั่วไปมาก ๆ เพราะมีหลายคนที่ปล่อยให้เกิดช่องวางของการสูญเสียฟันไว้นานเกิดไป ทำให้เกิดการสลายของมวลกระดูกขากรรไกรได้ ซึ่งจะต้องทำการปลูกถ่ายกระดูกก่อนที่จะทำรากฟันเทียม เวลาในการรักษาจะใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งจะทำให้การทำรากฟันเทียมล่าช้า  หรืออาจจะต้องใช้วิธีการรักษารากฟันเทียบแบบอื่น ๆ เช่น รากฟันเทียมทั้งปากแบบ ProArch (All-on-4 and All-on-6) 

บทความที่เกี่ยวข้อง วิธีการรักษารากฟันเทียมทั้งปากแบบ ProArch (All-on-4 and All-on-6)

เหตุผลที่ควรทำรากฟันเทียมมากกว่าการทำฟันปลอมหรือสะพานฟันอย่างเดียว?

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันที่สูญเสียไปทำให้คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องค่อยระมัดระวังเหมือนกับการใส่ฟันปลอมและสะพานฟันแบบต่าง ๆ ซึ่งรากฟันเทียมจะให้ความรู้สึกเหมือนกับฟันจริง ๆ มากกว่านั้นเอง โดยจะมีเหตุผลสำคัญดังต่อไปนี้

  • รากฟันเทียมทำให้ฟันแข็งแรง (ทั้งระบบชุดฟัน) การเพิ่มรากฟันเทียมในกรณีที่ฟันหายไป จะมีการทดแทนทั้งรากฟันและครอบฟัน (ฟันด้านบน) ที่หายไป ซึ่งอาจช่วยเพิ่มอายุขัยของฟันที่อยู่รอบ ๆ ได้ ในบางกรณี รากฟันเทียมจะแข็งกว่าฟันที่จะเปลี่ยน สะพานฟันและฟันบางส่วนทำให้ฟันอ่อนลงโดยบังคับให้ฟันซี่อื่นรับน้ำหนักฟันซี่ที่หายไป
  • รากฟันเทียมจะรักษาระดับกระดูกที่มีอยู่เมื่อฟันหายไป หากไม่มีการปลูกถ่าย กระดูกจะค่อย ๆ ดูดซับ (ละลายออกไป) เนื่องจากไม่มีแรงกระตุ้นที่จะยึดกระดูกไว้กับที่
  • รากฟันเทียมไม่ผุ จนถึงตอนนี้ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ครอบฟันหรือสะพานฟันพังก็เนื่องมาจากการผุเริ่มต้นที่ขอบตรงที่ครอบฟันมาบรรจบกับฟันธรรมชาติ การปลูกถ่ายไทเทเนียมไม่สามารถสลายตัวได้
การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ช่วยรักษาปัญหาฟันอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไร

ทำไมจึงต้องมีการปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป ?

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไปเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับคนไข้ที่มีฟันหายหรือสูญเสียฟันไปตั้งแต่หนึ่งซี่ขึ้นไป รากฟันเทียมช่วยทดแทนฟันที่หายไปอย่างถาวรให้กลับมาใช้งานได้ มักถูกเลือกใช้มากกว่าการทำฟันปลอมหรือสะพานฟันเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีรูปลักษณ์และความรู้สึกเหมือนฟันจริงมากกว่า นอกจากนี้ การปลูกรากฟันเทียมยังมีความคงทนถาวรมากกว่าการรักษาแบบเลือกอื่น ๆ

การมีฟันที่หายไปสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิด อาจทำให้กินและพูดคุยได้ยาก เมื่อเวลาผ่านไป ฟันซี่อื่น ๆ อาจเลื่อนออกจากแนวเดียวกัน ทำให้เกิดการกัดที่ไม่สม่ำเสมอ อาการปวดกรามและการสูญเสียมวลกระดูกอาจส่งผลให้เกิดได้ สิ่งสำคัญคือต้องทำฟันขึ้นมาใหม่ทั้งระบบ ไม่ว่าจะด้วยอุปกรณ์แบบถอดได้ เช่น ฟันปลอม หรืออุปกรณ์ที่ติดถาวร เช่น การทำรากฟันเทียม

บทความที่เกี่ยวข้อง รากฟันเทียมกับฟันปลอม ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน

ประโยชน์ของการปลูกรากฟันเทียม

  • มีความทนทานมากกว่าการเปลี่ยนฟันแบบอื่น ๆ และจะมีอายุการใช้งาน 15 ถึง 20 ปีเมื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
  • การปลูกถ่ายสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณได้ เป็นทางเลือกที่ดีนอกเหนือจากทางเลือกอื่น ๆ เช่น ฟันปลอมทั้งปาก เนื่องจากมีการบำรุงรักษาต่ำ อย่างไรก็ตาม อาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานเหมาะสม โดยรวมแล้วรากฟันเทียมจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมโดยไม่มีปัญหาใดๆ
  • ด้วยการปลูกรากฟันเทียม ทำให้ฟันซี่อื่น ๆ ของคุณก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฟันบริเวณใกล้เคียงเสียหายเช่นเดียวกับสะพานฟัน
  • รากฟันเทียมทดแทนฟันที่หายไปและกระตุ้นกราม ป้องกันการเสื่อมสภาพของกระดูกและรักษาลักษณะใบหน้าของคนไข้ไม่ให้เปลี่ยนรูป
  • หลาย ๆ คนพบว่าฟันปลอมที่ใส่ไม่พอดีอาจทำให้พูดยากเพราะเสี่ยงที่ฟันจะลื่น รากฟันเทียมช่วยให้คนไข้พูดได้อย่างอิสระโดยมีโอกาสที่ฟันหลุดน้อยลง ทำให้ได้เสียงที่ชัดเจนและบทสนทนามีคุณภาพดีขึ้น

สรุป

การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป หลังจากใส่รากฟันเทียมแล้วคนไข้จะได้รับชีวิตใหม่จากการมีฟันที่สามารถใช้งานได้เหมือนกับฟันธรรมชาติจริง สามารถทำการดูแลรักษาได้เหมือนกับฟันธรรมชาติทั่วไป ทำให้การรักปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป และรากฟันเทียมรูปแบบอื่น ๆ นั้นเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่สูญเสียฟัน หรือมีเหตุจะต้องทำการถอนฟัน สามารถเข้ารับการปลูกรากฟันเทียมกับ Dio Dental บริการทันตกรรมครบวงจร

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin