เคล็ดลับดับกลิ่นปาก ให้ลมหายใจหอมสดชื่นตลอดทั้งวัน เริ่มต้นด้วยตนเองได้ง่าย ๆ 

กลิ่นปากทำให้คนรอบข้างไม่อยากเข้าใกล้ และสามารถทำให้เราหมดความมั่นใจในการเข้าสังคมได้ง่าย ๆ การมีกลิ่นปากถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ ที่คุณจะต้องทำการแก้ไข้อย่างเร่งด่วน สาเหตุอันดับหนึ่งของกลิ่นปากคืออะไร ? การสะสมของเศษอาหาร แบคทีเรีย ภายในปากของคุณ เป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้เกิดกลิ่นปาก หากไม่กำจัดสิ่งที่สะสมนี้ออกไปจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้

โดยรวมแล้ว อาการกลิ่นปากส่วนใหญ่เกิดจากสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี เช่น ฟันผุ หินปูนบนฟัน โรคเหงือก หรือการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันไม่ทั่วถึง เมื่อฟันไม่สะอาด กองทัพแบคทีเรียในช่องปากจะไปจัดการกับเศษอาหารและสร้างสารประกอบกำมะถันที่ระเหยได้ และนั้นเองที่จะทำให้คุณนั้นมีกลิ่นเหม็นมากออกมาจากปากของคุณเวลาพูด การดูแลทันตกรรมที่ดีจึงเป็นปราการแรกในการต่อสู้กับกลิ่นปากที่ดีที่สุด และยังเป็นการรักษาสุขอนามัยพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องใส่ใจ

ทำไมถึงมีกลิ่นปาก และกลิ่นปากเกิดจากอะไร ?

กลิ่นปากที่เกิดขึ้นกับเรานั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่อย่างไรก็ตามปัญหาที่ทำให้เกิดกลิ่นปากเหล่านี้เราสามารถทำการจัดการหรือควบคุมได้ง่าย ๆ  และแม้ว่าคุณจะมีความผิดปกติทางพันธุกรรมต่อกลิ่นปาก แต่ก็มีขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดหรือกำจัดกลิ่นปาก แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะไปศึกษาเคล็ดลับการระงับกลิ่นปาก จะต้องรู้ถึงสาเหตุต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถรักษาแก้ไขได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ดังนี้

• แบคทีเรีย : คุณรู้ไหมว่าคุณมีแบคทีเรียหลายร้อยชนิดที่อาศัยอยู่ในปากของคุณตลอดเวลาแบคทีเรียเหล่านี้ช่วยสลายอาหารที่คุณกิน ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้สามารถสร้างกลิ่นได้ หากต้องการหยุดกลิ่นปากจากแบคทีเรีย แค่ใช้น้ำยาบ้วนปากป้องกันแบคทีเรียหรือแปรงฟันดี ๆ ก็ทำได้แล้ว
• ช่องปากแห้ง : น้ำลายช่วยทำความสะอาดปากและทำให้ลมหายใจมีกลิ่นหอมสดชื่น หากคุณมีอาการช่องปากแห้งเนื่องจากการใช้ยา ความบกพร่องทางพันธุกรรม หรือเนื่องจากคุณหายใจทางปากอยู่บ่อย ๆ  การขาดน้ำลายในปากนี้อาจนำไปสู่ปัญหากลิ่นในปากซึ่งส่งผลต่อลมหายใจได้ การเคี้ยวหมากฝรั่งบางครั้งอาจกระตุ้นให้ปากของคุณผลิตน้ำลายมากขึ้นและช่วยรักษาความสะอาด หมากฝรั่งทุกชนิดช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย แต่หมากฝรั่งไร้น้ำตาลจะดีที่สุดสำหรับฟันและสุขภาพช่องปากของคุณ
• อาหาร: ประเภทของอาหารที่คุณกินอาจทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน เช่น กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากนม โดยเฉพาะชีส และอื่น ๆ มากมาย คุณสามารถหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้เพื่อป้องกันกลิ่นปากหรือแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้งจะช่วยลดได้
• การสูบบุหรี่และยาสูบ : แน่นอนว่าการสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำให้ฟันของคุณเหลือง แต่ยังทำให้เหงือกเกิดความเสียหาย และเกิดกลิ่นปากจากควันบุหรี่อีกด้วย ที่แย่กว่านั้นคือ การสูบบุหรี่ทำลายการรับรู้กลิ่นของคุณ ดังนั้นคุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลมหายใจของคุณมีกลิ่นเหม็นแค่ไหน
• โรคเหงือก : หากคุณมีกลิ่นปากเรื้อรังและมีกลิ่นปากตลอดเวลาอาจเกิดขึ้นจากโรคเหงือก ซึ่งควรไปพบทันตแพทย์ เพราะคุณอาจเป็นโรคเหงือกระยะลุกลาม ซึ่งเกิดจากการสะสมของคราบพลัคในปาก การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำถือเป็นวิธีการที่ดี
• คราบหินปูน : เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า คราบหินปูนนั้นเป็นบ่อเกิดของการสร้างกลิ่นปาก เพราะคราบหินปูนเกิดจาก แบคทีเรียที่ทิ้งคราบพลัคที่เกิดการแข็งตัวเป็นหินปูน ซึ่งสามารถสร้างกลิ่นเหม็นได้ การตรวจสุขภาพและขูดหินปูนทุก 6 เดือนเป็นวิธีที่ดีที่สุด (บทความที่เกี่ยวข้อง หินปูนที่ฟันสร้างปัญหาในช่องปากมากกว่าที่คิด)
• ปัญหาทางเดินอาหาร : หากคุณมีอาการลำไส้แปรปรวน หรือกรดไหลย้อน คุณอาจมีกลิ่นปากได้เนื่องจากก๊าซจากระบบย่อยอาหารจะถูกปล่อยออกทางปาก 

8 เคล็ดลับดับกลิ่นปาก สร้างลมหายใจที่สดชื่นตลอดเวลา

การดูแลฟันและเหงือกเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพื่อให้ช่องปากสะอาดและไม่ให้แบคทีเรียทำงาน เนื่องจากแบคทีเรียจะกินเศษอาหารที่ติดอยู่ในฟันของคุณ จริง ๆ แล้วคราบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่นจะเกาะติดฟันของคุณหรือที่เราเรียกว่าคราบพลัค และหากแข็งตัวจะก่อให้เกิดหินปูนได้ ดังนั้นคุณจึงต้องแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างอ่อนโยนเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์หรือคราบพลัคออกไป ประกอบกับการดูแลรักษาอื่น ๆ เคล็ดลับดับกลิ่นปาก ดังต่อไปนี้

แปรงลิ้นเป็นประจำ

การขูดหรือแปรงลิ้นทุกวัน สามารถขจัดคราบจุลินทรีย์ที่เกาะติดกับลิ้นได้ และลดปัจจัยการเกิดแบคทีเรียอีกด้วย คุณสามารถซื้อที่ขูดลิ้นแบบพลาสติกหรือโลหะสำหรับทำความสะอาดลิ้นได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือใช้แปรงสีฟันก็ได้ และยังส่งผลดีต่อต่อมรับรสบนลิ้นก็จะทำงานได้ดีขึ้น

รักษาปากให้ชุ่มชื้น

รักษาปากให้ชุ่มชื้น น้ำลายมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยปกป้องฟันไม่ให้ผุ ดังนั้นการมีน้ำลายไหลเวียนในปากอยู่จะตลอดจะสร้างสมดุลที่ดีกับช่องปากมาก ๆ  ปากแห้งอาจทำให้เกิดกลิ่นปากและฟันผุได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำตลอดทั้งวัน กลั้วปากให้สะอาดหลังรับประทานอาหารหากคุณไม่สามารถแปรงฟันได้ หรือหากเป็นคนปากแห้งจากการใช้ยาอาจจะเคี้ยวหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาลเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย

ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์

น้ำยาบ้วนปากหลาย ๆ ยี่ห้อที่ซื้อจากร้านค้าทั่วไป ถึงจะมีกลิ่นมิ้นต์ที่สดชื่นและหอม แต่ก็มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในน้ำยาบ้วนปาก แน่นอนว่าแอลกอฮอล์อาจทำให้เนื้อเยื่อในปากของคุณแห้ง ซึ่งจะทำให้ลมหายใจแย่ลง ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นน้ำยาบ้วนปากที่มี “ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย” ก็อาจทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องปากของคุณเสียโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดีไปพร้อมกับแบคทีเรียที่ไม่ดี ยิ่งจะสร้างกลิ่นเหม็นได้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่มากมาย สามารถขอคำแนะนำจากทันตแพทย์ที่ คลินิกทันตกรรม Dio Dental ของเราได้เลย

ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปากและฟันให้ดี

การทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้ในช่องปากของคุณเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน หากคุณใส่รีเทนเนอร์ ฟันปลอม สะพานฟัน หรือแม้แต่ฟันยางสำหรับเล่นกีฬา โดยเฉพาะคนที่ทำการจัดฟัน ไม่ว่าจะจัดฟันเหล็ก หรือจัดฟันใส ให้ทำความสะอาดทุกวันเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฟันปลอมที่ละลายในน้ำอุ่นเป็นน้ำยาทำความสะอาดแบบแช่สำหรับฟันปลอมและรีเทนเนอร์ สำหรับคนจัดฟันสามารถเข้าไปดู วิธีการดูแลรักษาทำความสะอาดช่องปากสำหรับคนจัดฟัน ได้ที่นี่

บริการ จัดฟันเหล็ก และ จัดฟันใส ที่คลินิกทันตกรรม Dio Dental

งดรับประทานอาหารที่มีกลิ่นติดปาก

ในหลาย ๆ ครั้งคุณจำเป็นต้องออกไปพบผู้คน หรือคุยงานต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นเหม็น เช่น หัวหอมและกระเทียม หรือแม้แต่อาหารรสเผ็ดหรือหวานเป็นพิเศษก็อาจทำให้ลมหายใจของคุณเหม็นได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินหากต้องไปพบปะผู้คน ให้ลองเคี้ยวสมุนไพรสด เช่น ผักชีฝรั่ง ผักชี หรือใบมิ้นต์ เพื่อระงับกลิ่นปากชั่วคราว สำหรับกระเทียมและหัวหอมมักจะส่งกลิ่นผ่านระบบย่อยอาหารของคุณ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง 2-3 วันก่อนงานสังสรรค์หรือต้องพบปะผู้คนจะดีที่สุด

งดการสูบบุหรี่

แน่นอนว่าควันบุหรี่จะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วปากของคุณ และยังทำให้ปากแห้งอีกด้วย หากคุณสูบบุหรี่ให้พยายามเลิกเพื่อสร้างลมหายใจที่สดชื่นต่อคนรอบข้างให้ได้ อย่างที่บอกไปผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิดทำให้ปากของคุณแห้ง ซึ่งอาจทำให้ฟันผุและส่งกลิ่นปากที่เหม็นได้ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ตลอดทั้งวันยังช่วยให้คุณมีกลิ่นปากที่น่ารังเกียจมากกว่าสาเหตุอื่น ๆ อย่างชัดเจน ซึ่งอาจไม่หายไปแม้จะแปรงฟันอย่างดีก็ตาม

พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน

ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อทำการตรวจสุขภาพฟัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะทันตแพทย์จะทำความสะอาดช่องปากอย่างมืออาชีพเข้าถึงทุกพื้นผิวฟัน รวมถึงซอกมุมทุกซอกมุมที่แปรงสีฟันของคุณเข้าไม่ถึง รวมถึงการขูดหินปูน ซึ่งเป็นปัญหากลิ่นปากอันดับต้น ๆ ของคนไข้ทุกคนอีกด้วย คุณสามารถปรึกษาปัญหาต่าง ๆ รวมถึงกลิ่นปากกับทันตแพทย์ที่คลินิกทันตกรรม Dio Dental และรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีกำจัดกลิ่นปากได้ที่นี่

บริการขูดหินปูน ที่คลินิกทันตกรรม Dio Dental

สรุป

กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก และอาจจะสร้างความเสียหายให้กับเราได้ ดังนั้นการสำรวจตนเองอยู่เสมอ และตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือนจะสร้างสุขอนามัยที่ดีต่อช่องปากได้  ที่สำคัญการตื่นขึ้นมาพร้อมกับปากหรือลิ้นที่แห้ง ให้มุ่งหน้าไปที่อ่างล้างหน้าเพื่อดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำ โดยการใช้ แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน แปรงลิ้น และบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่ต่อสู้กับแบคทีเรียและทำให้ปากสดชื่น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งในตอนเช้า และก่อนเข้านอน