ความรู้ทันตกรรม

แปรงสีฟันมีกี่แบบ การเลือกแปรงสีฟัน ทำยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน

07

พ.ค.

แปรงสีฟันมีกี่แบบ การเลือกแปรงสีฟัน ทำยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน
Table of Contents

แปรงสีฟัน อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการดูแลช่องปาก เปรียบเสมือนโล่ป้องกันที่ปกป้องกันช่องปากเราจาก แบคทีเรีย เชื้อโรค ต่างๆที่จะเข้ามาโจมตีช่องปากเรา เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะขาดไม่ได้ในแต่ละวัน แปรงสีฟันมีหลากหลายรูปแบบ การเลือกใช้งานให้ถูกกับลักษณะการใช้งาน ทำความสะอาดช่องปาก จึงเป็นเรื่องที่คำนึง

แปรงสีฟันมีกี่ชนิด กี่รูปแบบ

แปรงสีฟันมีกี่แบบ การเลือกแปรงสีฟัน ทำยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน

ช่องปากและฟันการมั่นดูแลให้สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำเป็นประจำ และสำหรับอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากอย่าง แปรงสีฟัน แบ่งออกมามีให้เลือกใช้งานแบ่งแยกย่อยให้เหมาะกับการใช้งาน ประกอบด้วย ดังนี้

1. แปรงสีฟันธรรมดา

เครื่องมือที่ใช้ในการทำความสะอาดปากและฟัน การใช้แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอช่วยลดการสะสมของเซลล์เนื้อเยื่อและของเสียที่อยู่ในช่องปาก รวมถึงช่วยในการป้องกันโรคเหงือกและฟันเสื่อม การใช้แปรงฟันควรทำอย่างน้อยวันละสองครั้ง ซึ่งวัสดุ ความแข็งอ่อน ของขนแปรงฟันจะแบ่งออกตามช่วงอายุ

  • แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
  • แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี
  • แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี
  • แปรงสีฟันสำหรับผู้ใหญ่

2. แปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้า

เป็นแปรงฟันที่ผลิตขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกนำการใช้งาน สามารถใช้งานการแปรงฟันได้โดยไม่ต้องออกแรงในการแปรง ด้วยนวัตกรรมที่ทำให้แปรงสั่น โดยอาศัยการใช้การทำงานด้วยพลังงานแบตเตอรี่ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างแท้จริง ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปจากแปรงสีฟันทั่วไป ซึ่งแปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างมีประสิทธิ และลดปัญหาการเกิดแผลในช่องปากได้ เพราะสามารถควบคุมแรงในการแปรงของแปรงสีฟันให้คงที่ได้

3. แปรงซอกฟัน

ลักษณะของแปรงชนิดนี้ จะมีลักษณะคล้ายแปรงล้างจุกขวดนม จะเป็นแปรงที่มีขนาดให้เลือกใช้งานหลากหลายขนาด เหมาะสำหรับการใช้งานทำความสะอาดตามซอกฟัน นิยมใช้งานในหมู่ผู้ที่จัดฟัน เพื่อใช้กำจัดเศษอาหาร คราบสิ่งตกค้าง คราบสกปรก ที่แปรงสีฟันทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงทำความสะอาดได้ เพื่อลดโอกาสเกิดฟันผุ คราบหินปู และปัญหาอื่นที่อาจเกิดตามมาได้

4. แปรงกระจุก

แปรงสีฟันที่ถูกออกแบบมาให้หัวมีลักษณะเล็ก ให้สามารถใช้ทำความสะอาดในพื้นที่ ที่แปรงทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น บริเวณ บริเวณฟันด้านในสุด ฟันกรามซี่ใน ฟันคุดที่อยู่ด้านใน บริเวณจัดฟันที่เข้าถึงได้ยาก เป็นต้น เนื่องจากเป็นแปรงที่ออกแบบมาพิเศษ สำหรับการทำความสะอาดพื้นที่พิเศษที่แปรงทั่วไปทำไม่ได้ เป็นแปรงที่สำคัญที่ควรมีเพื่อใช้ทำความสะอาดช่องปาก เพราะสามารถทำความสะอาดได้ซี่ต่อซี่เลย

5. แปรงสำหรับทำความสะอาดลิ้น

แปรงลิ้นเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำความสะอาดลิ้น เพื่อลดการสะสมของเซลล์เนื้อเยื่อและของเสียที่อาจสะสมอยู่บนพื้นผิวของลิ้น การใช้แปรงลิ้นช่วยในการล้างคราบและเซลล์ผิดปกติที่อาจสะสมอยู่บนพื้นผิวลิ้น ทำให้ลิ้นมีความสะอาดและสุขภาพดีขึ้น การล้างลิ้นยังช่วยลดกลิ่นปากไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดจากการสะสมของเซลล์เนื้อเยื่อและของเสียในช่องปากได้ด้วย

แปรงลิ้นมักจะมีลักษณะรูปร่างและขนลิ้นที่ออกแบบมาเพื่อทำให้สามารถล้างคราบและเซลล์เนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหลายแบบรูปร่างและขนที่สามารถเลือกใช้ตามความสะดวกและความพึงพอใจส่วนตัวได้ การล้างลิ้นควรทำอย่างสม่ำเสมอ เช่น หลังการแปรงฟัน หรือหลังอาหาร เพื่อรักษาความสะอาดและสุขภาพของลิ้นอย่างเหมาะสม

6. แปรงฟันสําหรับคนจัดฟัน

แปรงฟันที่ออกแบบมาสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ ลักษณะของแปรงจะมีปลายเรียวแหลมแบบ V Shape เพื่อที่ตัวขนแปรงสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้ทั้งในซอกฟัน เหงือก ดังนั้นก็ควรเลือกขนแปรงที่ใช้วัสดุที่อ่อนนุ่ม เพื่อที่ตะได้ไม่เกิดอาการระคายเคืองเหงือกหรือเกิดบาดแผลในช่องปากได้ ก็ควรเลือกเป็นแปรงที่สร้างขึ้นมาสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ หรือทางที่ดีควรปรึกษาทันตแพทย์ในการเลือกแปรงฟันที่เหมาะสม

(อ่านเพิ่มเติม: ก่อนจัดฟันควรรู้ ขั้นตอนการจัดฟัน พร้อมวิธีการดูแลรักษา)

การดูแลแปรงฟัน แปรงฟันอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

การดูแลแปรงฟัน แปรงฟันอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
  1. เลือกแปรงฟันที่เหมาะสม: เลือกแปรงฟันที่มีขนอ่อนและไม่ทำลายเหงือก คุณอาจจะต้องเลือกขนแปรงที่มีความเหมาะสมตรงต่อการใช้งาน เช่น แปรงฟันที่มีขนอ่อนสำหรับเหงือกที่แพ้ง่าย หรือแปรงฟันที่มีขนแข็งสำหรับการทำความสะอาดแบบทั่วถึง
  2. การเลือกใช้ยาสีฟัน: เลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออกไซด์เพื่อป้องกันฟันเสียและเสริมความแข็งแรงของฟัน
  3. แปรงฟันอย่างถูกต้อง: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยแปรงฟันอย่างน้อย 2 นาทีต่อครั้ง โดยใช้เทคนิคการแปรงให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของฟันและเหงือก และไม่ลืมแปรงฟันด้านในและด้านนอกของฟัน
  4. เปลี่ยนแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ: แปรงฟันมีอายุการใช้งาน ควรเปลี่ยนแปรงฟันทุก 3-4 เดือนหรือเมื่อขนแปรงฟันเริ่มแตกหรือเสื่อมสภาพ
  5. เก็บแปรงฟันให้สะอาด: หลังจากใช้แปรงฟันเสร็จแล้ว ควรชำระแปรงฟันให้สะอาดและทำให้แห้ง และเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
  6. หมั่นสังเกตสภาพแปรงฟัน: ตรวจสอบสภาพแปรงฟันเป็นประจำ เช่น แปรงขาดหรือชำรุด ถ้าพบว่าแปรงฟันมีสภาพเสื่อมโทรมควรเปลี่ยนแปรงฟันใหม่

บทสรุป

การเลือกแปรงสีฟัน ควรคำนึงถึงหลายๆปัจจัย และที่สำคัญควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อความสะอาดของช่องปาก เพราะหากเลือกใช้แปรงไม่ถูกต้องตรงตามการใช้งานทำความสะอาด อาจเกิดคราบสะสม คราบอาหารติดตามซอกฟัน และเกิดปัญหาช่องปากตามมาได้ ดังนั้นการเลือกแปรงฟันให้เหมาะกับการใช้งาน ตามลักษณะช่องปากจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

บทความเพิ่มเติม:

แชร์ผ่าน Facebook
แชร์ผ่าน Twitter
แชร์ผ่าน LinKedin
นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์
บทความล่าสุด
Follow Us